[2woon feat.83line] My Lovely Pet: CHAPTER 13 -NC-

CHAPTER 13

“อะ อื้อ อะอ๊ะ..” เสียงหวานร้องครางเมื่อเรียวลิ้นร้อนเล็มเลียไปตามแก่นกลางของเขา มือเล็กเอื้อมมาจิกผมอีกฝ่ายแน่นเพื่อใช้ระบายอารมณ์เสียวซ่าน สายตาเรียวเล็กก้มลงมองคนตัวหนาที่อาสาช่วยปลดปล่อยให้กับเขา และภาพที่เห็นก็ทำให้ใบหน้ากลมแดงก่ำ ใจเต้นแรงจนได้ยินสะท้อนก้องอยู่ในหัว

คังอินอมแก่นกายเล็กเข้าไปในปากแล้วขยับรูดขึ้นลงเนิบนาบ ก่อนเพิ่มความเร็วขึ้นเมื่อสะโพกมนตอบสนอง สองมือจับต้นขาเรียวเอาไว้แล้วดันออกกว้าง ไม่นานร่างเล็กก็ปลดปล่อยเข้าเต็มปากของเขา คนตัวหนาไม่ได้นึกรังเกียจอะไรและกลืนมันลงไปอย่างยินดี เขามองจงอุนที่นั่งใบหน้าแดงก่ำหายใจเหนื่อยหอบ รอยยิ้มกว้างผุดขึ้น ริมฝีปากหยักก้มลงครอบครองเม็ดไตสีสวยซึ่งแข็งขืนขึ้นมาตามแรงอารมณ์

ในการมีอะไรกันคราวนี้คังอินพยายามระมัดระวังไม่ทำให้อีกฝ่ายเจ็บตัว เขาอยากให้มันเป็นเซ็กส์ที่อ่อนโยนเต็มไปด้วยความรัก ไม่ใช่มีแต่แรงอารมณ์พาไปแบบครั้งก่อนๆ

“อา…คุ คุณคังอิน” เสียงหวานเรียกก่อนแอ่นตัวขึ้นรับสัมผัสวาบหวาม มือเล็กจิกบนแผ่นหลังอีกฝ่าย ดวงตาเรียวเล็กปรือฉ่ำไปด้วยน้ำ แก้มขึ้นสีแดงเข้ม ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากัน ก่อนต้องปล่อยเสียงครางออกมาเมื่อคนตัวหนาใช้ปลายลิ้นดุนดันเม็ดทับทิมบนอกของเขา

ริมฝีปากหยักดูดดึงผิวกายขาวนวลจนเกิดเป็นรอยรักสีกุหลาบเข้ม เขาไม่ได้ทำไว้แค่จุดเดียว แต่ยังดูดดึงผิวกายเนียนจนแผ่นอกและหน้าท้องแบนราบมีแต่รอยรัก

“ไม่ต้องเกร็งนะคนดี เดี๋ยวจะเจ็บนะครับ”

“อื้อ…อ๊ะ คุ คุณคังอิน” จงอุนร้องเบาๆ เมื่อริมฝีปากอุ่นเล็มเลียใบหูจนรู้สึกสะท้านไปทั้งร่าง ก่อนจมูกโด่งจะคลอเคลียอยู่บนลำคอระหงษ์แล้วไล้ลงมาบนตัว คังอินกดจูบย้ำรอยรักอีกครั้งแล้วเลื่อนลงไปดูดเม้มต้นขาด้านในเรียกเสียงครางออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า

ไม่นานคนตัวหนาก็ยืดตัวขึ้นก่อนแยกท่อนขาอีกฝ่ายออกกว้างกว่าเดิม เขาค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปด้านในช่องทางสีหวานแสนคุ้นเคย จากนั้นก็ทิ้งมันเอาไว้สักพักเพื่อให้คนตัวเล็กปรับตัว

ความร้อนระอุภายในทำเอาคังอินแทบคลั่งแต่เขาต้องยั้งใจ เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บและรู้สึกไม่ดีกับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ เขาอยากให้จงอุนรู้สึกร้อนรุ่มและวาบหวามไปพร้อมกับเขา ไม่นานคนตัวหนาก็ส่งนิ้วที่สองและสามตามเข้าไป เขาขยับมันเข้าออกเนิบนาบ ในหัวคิดแผนแกล้งคนหน้าแดงก่ำที่บิดเร่าไปมาและได้แต่ส่งเสียงครางเสนาะหู

“อยากให้ฉันเข้าไปหรือเปล่า”

“…อ๊ะ อื้อ ถะ…ถามอะไรน่ะครับ” จงอุนตอบเสียงอ้อมแอ้ม ดวงตาหลบไปมองทางอื่น คังอินหัวเราะน้อยๆ แล้วควานหาจุดกระสันก่อนกดมันลงไปเบาๆ เพื่อเรียกให้อีกคนหันมามอง

“อ๊า!…ผม เสียว อื้อ…อย่าแกล้งผม เลยนะ” จงอุนร้องขอแต่คังอินส่ายหน้าไปมา เขายิ้มกว้างแล้วเอ่ยถาม “ตอบมาก่อนสิว่าอยากให้ฉันเข้าไปหรือเปล่า”

“หยะ…อยาก” สุดท้ายจงอุนก็ทนไม่ไหวเมื่อร่างกายมันร้อนรุ่มขึ้นทุกที “คุณคัง…”

ริมฝีปากอิ่มถูกปิด ลิ้นร้อนสอดเข้าทำหน้าที่ของมันอย่างชำนาญ จากนั้นคังอินก็ผละออกมาแล้วสบสายตาหวานเยิ้ม เขายังคงวนนิ้วอยู่ในช่องทางสีสวย

“อ้อนก่อนแล้วจะทำตาม”

“…” จงอุนเงียบ แล้วต้องสะดุ้งเมื่อนิ้วทั้งสามขยับเร็วขึ้นจนเขาสติกระเจิง สุดท้ายริมฝีปากอิ่มก็เผยอขึ้นอ้อนเสียงพร่า “ช่วยผม…นะ ยองอุน”

นิ้วทั้งสามถูกถอนออกไปกลายเป็นสิ่งใหม่ซึ่งแข็งขืนและใหญ่กว่าเข้ามาแทนที่ คนตัวเล็กนิ่วหน้าด้วยความเจ็บทำให้คังอินต้องหยุดสอดใส่แก่นกายของตน เขาก้มลงไปจูบขมับคนตัวเล็กก่อนเลื่อนไปประกบริมฝีปากอิ่ม ส่งลิ้นร้อนเข้าไปควานหาความเย้ายวนตรึงใจภายใน ไล่เก็บเกี่ยวทุกความหวานคล้ายน้ำผึ้งมาเป็นของตนเอง ก่อนถอนริมฝีปากออกมาเมื่อคนตัวเล็กร้องท้วง แล้วในที่สุดคังอินก็แทรกความเป็นชายเข้าไปในได้จนสุดทาง

“ฮึก…จะ เจ็บ ผมเจ็บ…อือออ” ริมฝีปากอิ่มถูกปิดอีกครั้ง มือหนายกขึ้นกดคลึงตุ่มไตบนอกขาว ความวาบหวามเข้าแทนที่ความปวดร้าว จงอุนเผลอไผลไปตามรสสัมผัสที่อีกฝ่ายมอบให้และตกอยู่ในห้วงภวังค์ความเสียวซ่านนั้น ในหัวสมองขาวโพลนไร้ซึ่งสติอีกต่อไป ปล่อยตัวปล่อยใจให้ร่างกายตอบรับอีกฝ่ายไปตามสัญชาตญาณ

คังอินเริ่มขยับเข้าออกเมื่อร่างเล็กผ่อนคลายแล้ว เขายึดสะโพกมนเอาไว้แน่นก่อนกระแทกกระทั้นแล้วหลุดครางออกมาเนื่องจากความคับแน่นและแรงตอดรัดจากอีกฝ่าย คนตัวหนายั้งใจไว้ไม่ได้อีกต่อไป เขาถอนแก่นกายตัวเองออกก่อนกระแทกกลับเข้าไปใหม่ หลายต่อหลายครั้งจนคนตัวเล็กตัวสั่นคลอนไปตามแรง เขาโอบเอาร่างของจงอุนมากอดทำให้แผ่นอกทั้งคู่เบียดกัน เสียงหายใจปนไปกับเสียงครางอย่างสุขสม

ในที่สุดคังอินก็ปลดปล่อยเข้าไปในร่างคนตัวเล็ก พร้อมกันกับจงอุนที่ปลดปล่อยน้ำรักของตัวเองออกมาเปรอะบนหน้าท้องของเขา

ร่างเล็กล้มลงไปนอนบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน มือหนาของคังอินเอื้อมไปแตะมุมปากซึ่งมีรอยช้ำแผ่วเบา ดวงตาคมวาวโรจน์เพราะความโกรธที่เขาปกป้องคนตัวเล็กไม่ได้

“ขอโทษนะที่ฉันปกป้องนายจากซีวอนไม่ได้ ขอโทษที่ทำให้นายต้องตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายแบบนั้น ต่อไปนี้ฉันสัญญาว่าจะดูแลนายและปกป้องนายให้ดีที่สุด เชื่อใจฉันนะจงอุน”

“ครับ” จงอุนตอบรับเสียงหวานพร้อมรอยยิ้ม “ผมเชื่อใจคุณ”

ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำให้จงอุนตอบรับไปแบบนั้น เขาลืมทุกความกลัวและความน้อยเนื้อต่ำใจไปจนสิ้น เสียงหัวใจของเขาเต้นระส่ำเมื่อคนตัวหนาก้มลงจูบเป็นการยืนยันสัญญา ก่อนเขาจะโดนพลิกตัวให้ขึ้นคร่อมตัวคังอิน รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนริมฝีปากหนา

“อีกรอบแล้วกันนะคนดี”

คังอินนอนมองคนตัวเล็กในอ้อมแขนที่ผล็อยหลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อน มือหนาเกลี่ยปรกผมอีกฝ่ายเล่นไปมาเบาๆ เพราะกลัวไปรบกวนคนตัวเล็กที่กำลังหลับฝันดี ท่อนแขนแกร่งรั้งคนตัวเล็กเข้ามากอดแน่นขึ้นแสดงความเป็นเจ้าของ เขาจูบลงบนหน้าผากมนแผ่วเบาแล้วแกล้งหลับเมื่อคนตัวเล็กเหยียดกายพร้อมปรือตา

จงอุนกระพริบตาปริบปรับสายตาให้ชินแสง เขามองแผงอกแกร่งตรงหน้าก่อนนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เกิดขึ้น ใบหน้ากลมแดงและร้อนผ่าวขึ้นทันที เขาซุกหน้าลงกับมันเพื่อซ่อนความเขิน แต่ต้องเขินเข้าไปใหญ่เมื่อได้ยินเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจของอีกคนชัดเจน

ให้ตายสิ สถานการณ์แบบนี้มันแย่ที่สุดเลย เขินจนใจเต้นแรงไปหมดแล้ว

สุดท้ายจงอุนก็ได้แต่นอนใจเต้นแรงอยู่คนเดียว เขาเงยหน้ามองใบหน้ายามหลับของคังอินอย่างพิจารณา เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เขาได้นอนมองใบหน้าคมชัดๆ และใกล้ขนาดนี้ มือเล็กเอื้อมขึ้นแตะแก้มอีกฝ่ายแผ่วเบาแล้วยืดตัวขึ้นมองให้เต็มตา เขาเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้แล้วต้องสะดุ้งโหยงเมื่อดวงตาคมลืมขึ้นแล้วรั้งท้ายทอยของเขาเอาไว้ จากนั้นริมฝีปากหยักก็ทาบทับลงมาแนบแน่น อ่อนหวานและอ่อนโยนทว่าดุดัน

“มาปลุกกันได้ไง” วงแขนแกร่งโอบเอวคนตัวเล็กเข้าไปใกล้ก่อนซุกหน้าลงกับแผ่นอกบาง “ยังง่วงอยู่เลย”

“ผมขอโทษครับ คุณคังอินนอนต่อเถอะครับ”

“ไม่เอาอ่ะ นอนมองจงอุนแบบนี้ดีกว่าเยอะ ว่ามะ”

จงอุนพยายามดันร่างหนาให้ล้มลงไปนอนแต่อีกฝ่ายกลับพลิกคร่อมเขา ดวงตาเรียวเล็กเบิกกว้างเพราะความตกใจ หัวใจเต้นระรัว คังอินคนเดิมที่เคยใจดีกับเขากลับมาแล้ว

เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ตอบอะไรทำแค่นอนหน้าแดง คังอินก็โน้มตัวลงไปจูบมุมปากแผ่วเบาแล้วผละขึ้นมามองใบหน้าหวาน เขายิ้มกว้างขำกับแก้มซาลาเปาซึ่งแดงก่ำเป็นลูกตำลึงสุด คังอินก้มลงหมายจะเริ่มบทรักอีกครั้งแต่ต้องชะงักเมื่อประตูห้องถูกถีบออกดังผัวะ!!

“สวัสดีจงอุน พี่ฮีชอลคนสวยมาเยี่ยมนายล่ะ~~~~~~~~~~”

“(-____________________-*)”

ฮีชอลอ้าปากค้างเมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วเห็นน้องชายตัวดีขึ้นคร่อมร่างของจงอุนอยู่ ข้าวกล่องที่ตั้งใจทำมาเยี่ยมหล่นลงกระแทกพื้น ก่อนสองมือซึ่งกางนิ้วออกจะยกขึ้นปิดหน้า

คังอินรีบดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวของเขาและจงอุน(ที่มุดอยู่ใต้ผ้าห่ม)ทันที เขาตวัดตามองฮีชอลแล้วหยิบปืนบนหัวเตียงขึ้นมาจ่อตรงไปทางแขกไม่ได้รับเชิญ

“อีกสองชั่วโมงเราจะออกไปหาเอง ออกไปได้แล้วไอ้พี่บ้า”

“ไปกันเถอะฮีชอล” อีทึกพูดจบก็ก้มลงเก็บข้าวของมาถือดังเดิมแล้วลากแฟนตัวดีออกไปจากห้องของคังอินและจงอุนทันที เขากลัวว่าจะเป็นพ่อหม้ายไปก่อนน่ะสิ…

ฮีชอลนั่งมองหน้าน้องชายตัวดีซึ่งกินเอาๆ เหมือนไปอดอยากจากไหนมา สงสัยจะใช้แรงเยอะสิท่าถึงได้จกได้จกดีแบบนี้ เขาจิ๊ปากอย่างขัดใจเมื่อคังอินไม่ยอมให้เขาเจอจงอุน ว่าจะมาชวนทำแพนเค้กหอยแมลงภู่ของขึ้นชื่อของคังวอนโดซะหน่อย ชิ

“แล้วทำไมฉันถึงเจอจงอุนไม่ได้”

“เพราะว่าจงอุนต้องพักผ่อนไงครับ”

“ทำเขาเดินไม่ได้มากกว่าล่ะสิ โด่ยเอ้ย”

แผละ…

คังอินหยิบไข่เจียวปาใส่หน้าฮีชอล คนโดนกระทำได้แต่โมโหแต่ทำไรไม่ได้เมื่ออีทึกนั่งจ้องอยู่ เขาจึงไปลงที่ไข่เจียวซึ่งนั่งทอดอย่างดีเมื่อเช้าแทน มือเพรียวบางหยิบมันขึ้นมากัดเข้าปากแรงๆ

“เมื่อวานซีวอนจับตัวจงอุนไป ดีนะผมให้เขาใส่สูทที่ติดGPSเอาไว้ไม่งั้นป่านนี้เจ้าตัวเล็กจะเป็นยังไงก็ไม่รู้”

“แล้วทำไมนายถึงปล่อยเขาไว้คนเดียว!” ฮีชอลตะโกนถามอีกคนเสียงจริงจัง “ถ้าจงอุนเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง”

“เพราะงั้นผมถึงให้พี่พบเขาตอนนี้ไม่ได้ พี่อีทึกครับช่วยเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนจงอุนทีนะครับ ไว้อีกยี่สิบนาทีแล้วพี่พาเขามาพบผมทีนะครับ”

“ได้สิ งั้นฉันไปดูน้องก่อนนะฮีชอล”

อีทึกรับคำพลางลุกขึ้นตบบ่าคนรักเบาๆ คนตัวสูงโปร่งเดินตรงไปยังห้องนอนของจงอุน เมื่อคังอินเห็นว่าอีทึกเดินเข้าไปในห้องแล้วเขาก็หันมานั่งหน้าเครียดมองหน้าฮีชอล พี่ชายของเขาเองก็เครียดไม่แพ้กัน ฮีชอลรู้ว่าทำไมคังอินถึงไม่ให้เขาพบจงอุน คงมีเรื่องสำคัญที่ต้องคุยกันสองคนสินะ

“ถ้าพรรคอื่นที่เป็นศัตรูกับนายรู้ว่าเจ้าเด็กนั่นคือคนที่หัวหน้าพรรคมังโลการักจนจะเป็นจะตายล่ะก็ พวกมันต้องหาทางมาจับตัวจงอุนไปอีกแน่ ตอนนี้จงอุนตกอยู่ในอันตรายแล้วนะยองอุน”

“ผมรู้ครับพี่ ผมกำลังคิดหาวิธีซ่อนตัวเขาอยู่ คงต้องดูแลกันเป็นอย่างดีแล้วให้คนตามติดทุกฝีก้าว แล้วค่อยอธิบายให้เขาฟังว่าเพราะอะไรเราถึงต้องทำแบบนั้น”

“เขายังไม่รู้เหรอไงว่านายเป็นมาเฟีย?”

“ยังครับ เขาคงคิดว่าผมเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ล่ะมั้ง เอาไว้ค่อยบอกเขาก็ได้ ตอนนี้ผมมีหน้าที่ต้องปกป้องเขา ผมจะไม่ยอมให้เขาโดนลักพาตัวได้อีก”

คังอินกำหมัดแน่นแล้วทุบลงบนโต๊ะเสียงดัง เขาขบฟันแน่นเพราะความโมโห ใบหน้าหล่อเหลามองสีหน้าของฮีชอลซึ่งจริงจังไม่แพ้กัน มือของพี่ชายเอื้อมมาจับมือของเขาเอาไว้ก่อนตบบนหลังมือเบาๆ

“ฉันจะสั่งให้ลูกน้องคอยช่วยเป็นหูเป็นตาให้อีกแรง แล้วก็จะไปกระจายข่าวให้พรรคในเครือช่วยอีกที นายไม่ต้องห่วงนะ”

“ครับ ขอบคุณนะครับพี่” คังอินกุมมือพี่ชายแน่น “ผมฝากให้พี่ช่วยสืบเรื่องของคยูฮยอนได้มั๊ย”

“ได้สิ ฉันก็พยายามสืบอยู่ ไว้มีความคืบหน้ายังไงแล้วจะไปบอกแล้วกันนะ”

คังอินพยักหน้ารับก่อนผละมือออกจากฮีชอลเมื่อเห็นเดินจงอุนออกมาจากห้อง ใบหน้ากลมสดใสร่าเริงเหมือนช่วงแรกที่อยู่ด้วยกัน คนตัวหนาเดินไปพยุงคนทำงานหนักทั้งคืน(?)แล้วรีบพาไปหาอะไรกินกันข้างนอกทันที

“คุณคังอินครับ เอ่อ…คือ ทำไมต้องพาผมมาทานอาหารที่นี่ด้วยล่ะครับ”

“ก็ทำไมอ่ะ? ก็ฉันอยากกินสเต็กกับนายนี่นา”

คังอินพูดจบก็ตัดเนื้อสเต็กแซลม่อนในจานจ่อปากจงอุน คนตัวเล็กมีท่าทีลำบากใจแต่ต้องยอมกินมันลงไปเมื่อเห็นสายตาอ้อนวอนแกมบังคับของคังอิน คนตัวเล็กเคี้ยวตุ้ยๆ แล้วนั่งกินอาหารเช้าของวันจากการป้อนของคังอินไม่หยุด

คนตัวหนายิ้มกว้างมองคนตัวเล็กที่นั่งกินอาหารเหมือนเด็กน้อย เขาเอื้อมมือไปเช็ดมุมปากให้อีกฝ่ายเมื่อเห็นว่ามันเปื้อน จากนั้นก็จิ้มเนื้อแซลม่อนป้อนต่อ เขานั่งกินอาหารมื้อเช้ากับจงอุนอย่างมีความสุขในโรงแรมหรู ท่ามกลางการคุ้มกันอย่างดีจากบอดี้การ์ดจำนวนสี่สิบคนซึ่งเป็นลูกน้องของเจ้าของโรงแรมซึ่งเป็นพรรคในเครือของเขาเอง นี่แหละที่ทำให้จงอุนลำบากใจน่ะ…

24/01/2015

อย่าลืมกลับไปเม้นที่ http://my.dek-d.com/yeyehkung/writer/view.php?id=1280419 นะคะ :3

[2woon feat.83line] My Lovely Pet: CHAPTER 8 -NC-

CHAPTER 8

รถลีมูซีนคันดำขับไปตามถนนตามปกติของมันดูไม่แปลกตาคนทั่วไปเท่าไหร่ แต่หากเมื่อมันหยุดแล้วมีคนสังเกตดีๆ จะพบว่ามันกำลังสั่นอยู่น้อยๆ

ด้านในรถ ชายร่างหนาคนหนึ่งจับร่างคนตัวเล็กให้หันหน้าเข้าหากระจกฟิล์มดำของรถจนแผ่นอกแนบติดกับมัน ความเย็นของแผ่นกระจกทำให้ร่างคนตัวเล็กอุณหภูมิสูงขึ้นตามข้ามกับอุณหภูมิภายในรถที่ลดลงต่ำจนสะท้านไปทั้งผิว สองมือเล็กจับที่จับเหนือหัวแน่น ดวงตาบวมช้ำมีน้ำตาไหลลงมาอีกครั้ง

“ไหนๆ ฉันก็จะปล่อยนายไปแล้ว นายก็ช่วยบำเรอจนกว่าฉันจะพอใจด้วยล่ะ”

“ได้สิครับ…ถ้าหากมันทำให้คุณปล่อยผมไปจริงๆ”

ยิ่งได้ยินคำพูดของจงอุนคังอินก็ยิ่งโกรธและโมโหมากขึ้นไปอีก ต่างจากคนตัวเล็กที่ยอมรับชะตากรรมของตัวเองพร้อมหลับตาลงรอการกระทำจาบจ้วงจากอีกฝ่าย เขากำที่จับรถเหนือหัวไว้แน่น เผลอเกร็งตัวด้วยความกลัว

“ได้…ได้สิจงอุน งั้นก็ช่วยครางเสียงหวานให้ฉันฟังดังๆ เลยล่ะ เอาให้ฉันประทับใจจนยอมปล่อยนายไป”

“ครับ คุณคังอิน”

เมื่อไม่เห็นอีกฝ่ายตอบโต้เหมือนแต่ก่อนคังอินก็หงุดหงิด เขาจัดการพลิกตัวของเยซองให้หันกลับมามองหน้าเขาแล้วทาบทับตัวลงไป ใบหน้าคมมองดวงหน้ากลมที่นองไปด้วยน้ำตา แววตาสั่นระริกอย่างหวาดกลัว คนตัวหนาเอ่ยถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“นายจะให้ทำฉันอะไรกับนายก็ได้ใช่มั๊ย” ดวงตาคมมองสีหน้าคิดหนักของอีกคน “ใช่มั๊ยจงอุน?”

“อะ…ดะเดี๋ยวครับ”

พอเอาเข้าจริงเยซองก็กลัวขึ้นมา เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคังอินจะทำตามคำขอของเขาจริงหรือเปล่า เขามองสบดวงตาคมแสนเจ้าเล่ห์ด้วยหัวใจที่บอบช้ำและหวาดหวั่น ตัวของเขาสั่นระริก

“สั่นทำไม? แอร์เย็นไปจนหนาวเหรอไงกัน? ถ้านายหนาวล่ะก็ฉันอาจจะหยุดให้ก็ได้นะ”

“หนาวครับ ผมหนาว ผมหนาวมากครับ”

เยซองตอบกลับทันควันโดยไม่ยั้งคิดเลยว่านั่นเป็นเพียงแผนหลอกเขา คังอินหัวเราะร่าอย่างพึงพอใจแล้วก้มหน้าลงกระซิบข้างใบหูเล็ก

“ถ้าหนาวฉันจะช่วยให้นายอบอุ่นเอง รับรองว่าฉันจะกอดนายให้แน่นจนร้อนไปเลย”

“อ๊ะ..อื้อ อือ…ไหน คุณบอกอ๊ะ ถ้าผมหนาวจะหยุดไง” เสียงหวานร้องท้วงเมื่อคนตัวหนาใช้จมูกดุนดันไปตามยอดไตของเขา คนตัวเล็กบิดตัวเร่าเมื่อความเสียวซ่านแล่นเข้ามาทุกประสาทสัมผัส

“ฉันไม่ได้บอกว่าจะหยุด ฉันบอกอาจจะหยุด นายไม่อยากเป็นอิสระเหรอไงกัน?”

“อ๊ะ…ฮึก หยะ…อยาก ฮึก…”

คนตัวเล็กตอบเสียงแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน คังอินทำหูทวนลมแล้วก้มลงใช้ลิ้นเล็มเลียความหวานไปทั่วทั้งร่างบอบบาง เมื่อปรนเปรอร่างกายอีกฝ่ายจนจงอุนเริ่มมีอารมณ์ร่วม เขาก็ผละตัวออกมามองใบหน้ากลม เขาคว้ามือของคนตัวเล็กที่จับอยู่บนที่จับเหนือหัวพร้อมออกแรงดึงให้ตัวเข้ามาใกล้ คนตัวหนาสบลงในดวงตาสั่นระริกนั่นแล้วประกบจูบลงไปบนริมฝีปากอิ่ม

“อือออ” เสียงร้องท้วงจากคนด้านบนทำให้คนตัวหนาจำต้องผละริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่ง คนตัวเล็กหอบเอาอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุด ก่อนตกใจเมื่อหัวโดนกดให้ลงไปอยู่ตรงหว่างขาของผู้เป็นนาย

“ฉันบอกให้นายบำเรอฉัน ทำให้ฉันมีความสุขสิแล้วฉันจะปล่อยนายไป”

“…” คนตัวเล็กเงียบ เขาชั่งใจคิดอยู่นานก่อนตัดสินใจเอื้อมมือรูดซิปกางเกงอีกคนออก สองมือเล็กกอบกุมเอาแก่นกายซึ่งเริ่มแข็งขืนขึ้นของอีกฝ่ายออกมา เขาใช้สองมือรูดขึ้นลงอย่างเก้ๆ กังๆ เพราะไม่เคยทำมาก่อน

“อาาาา…” คังอินร้องครางเมื่อมือเย็นๆ ของอีกฝ่ายกอบกุมความเป็นชายของเขาไว้ เขาก้มลงมองคนตัวเล็กที่กำลังใช้สองมือของตัวเองปรนเปรอให้เขาไม่หยุด เขายกมือขึ้นจิกผมอีกคนเพื่อระบายความเสียวซ่าน สายตาอ่อนลงจากเมื่อครู่ทอดมองอีกฝ่าย

“ใช้ปากของนายสิ” สิ้นคำคังอินก็จับสองมือของอีกคนออกแล้วจ่อแก่นกายตรงริมฝีปากอิ่ม ตอนแรกจงอุนมีท่าทีขัดขืนไม่ยอมแต่เมื่อเขาพูดถึงเรื่องจะยอมปล่อยอีกคนไป คนตัวเล็กก็รีบอ้าปากอมเอาความเป็นชายของเขาเข้าไปจนสุดความยาว

เสียงครางทุ้มต่ำของคนตัวสูงดังขึ้นเมื่อคนตัวเล็กเริ่มขยับหัวเร็วขึ้นจากเดิม มือหนายกขึ้นจิกกลุ่มผมนุ่มของร่างเล็กตรงหน้าเอาไว้แน่น พร้อมขยับหัวอีกฝ่ายขึ้นลงตามจังหวะการขยับสะโพกของตัวเอง ไม่นานในหัวก็ขาวโพลนก่อนจะปล่อยน้ำให้พุ่งเข้าเต็มปากอีกฝ่าย

จงอุนสำลักจนแต่จำต้องกลืนพวกมันลงไปเมื่อโดนมือหนาเอื้อมมาปิดปากไว้ คังอินจ้องมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่าต่างจากทุกที จากนั้นก็จับสองมือของเขาให้กอบกุมกลางลำตัวตัวเอง แล้วขยับมันขึ้นลงเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ขึ้นมา

ร่างเล็กโดนดันให้หันหน้าแนบกระจกอีกครั้ง สะโพกถูกกดลงให้กลืนกินแก่นกายที่เพิ่งตื่นขึ้นเมื่อครู่ ไม่นานความคับแน่นและเจ็บร้าวในช่องทางก็ทำให้รู้สึกทรมานอีกครั้ง คังอินขยับสะโพกเข้าออกเร็วๆ แรงๆ โดยไม่สนใจเลยว่าร่างเล็กจะพร้อมหรือยัง

“อ๊า อ๊า…อึก อื้อ” เพราะคิดว่าตัวเองจะได้เป็นอิสระในอีกไม่นานทำให้จงอุนยอมทนรับความเจ็บปวดนี้เอาไว้ เขาตอบรับการกระแทกกระทั้นจากคนด้านหลังไม่หยุด ตัวของเขาขยับขึ้นลงจากแรงที่ส่งมาทำให้ยอดอกเบียดถูกับแผ่นกระจกจนได้ยินเสียง ดวงหน้ากลมร้อนผ่าวและแดงก่ำเมื่อเห็นคนเดินผ่านไปมามองมาทางเขา จงอุนรู้ว่ากระจกนี่เป็นแบบฟิล์มดำที่คนภายนอกมองไม่เห็นข้างใน แต่เขาไม่ใช่คนหน้าด้านหนิถึงจะได้ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเมื่อมีคนมองมาแบบนี้ เขาได้แต่ภาวนาให้สิ่งที่เกิดอยู่จบลงไปโดยเร็ว

“อึก…อ่าห์” เสียงร้องครางอย่างสุขสมของคนสองคนดังขึ้นพร้อมกัน จงอุนฉีดน้ำขาวขุ่นออกมาเลอะประตูรถและหยดลงบนเบาะสีเข้ม ร่างของเขาแทบไถลไปนอนกองกับเบาะ ความเจ็บและความรู้สึกมึนตึ้บที่หัวทำให้เขาเริ่มมองอะไรไม่ชัด

ไม่นานร่างของเยซองก็ถูกพลิกให้นอนหงาย คนตัวหนาขึ้นคร่อมก่อนก้มลงปรนเปรอและเม้มรอยรักไปตามผิวเนียน เสียงครางหวานร้องดังขึ้นทันที ความคับแน่นภายในตัวและภายในช่องทางของเขาเป็นสัญญาณเตือนคนตัวเล็กว่าบทรักครั้งนี้มันยังไม่จบ

คังอินยังคงกระแทกกระทั้นเข้าใส่ร่างของจงอุนไม่ยั้งถึงแม้เขาจะเหลือบเห็นช่องทางสีสวยฉีดขาดก็ตามที ก็อย่างที่เขาพูดบอกคนตัวเล็กไป เขายินยอมให้อิสระกับอีกฝ่ายถ้าหากโดนเขาทำพังไปแล้วกับมือ จงอุนจำต้องรองรับอารมณ์ตามคำพูดเจ้าของชีวิตเขาบอกไว้แต่แรก

‘ฉันให้นายหนีไปก็ได้ แต่หลังจากนายพังเพราะเป็นของเล่นให้ฉันไปแล้วนะ’

“นายทำให้ฉันคลั่งได้เสมอเลยนะ จงอุน”

“…”

คังอินจัดการเช็ดคราบน้ำรักบนตัวเองออกแล้วแต่งตัวให้เข้าที่ เขาเหลือบมองคนตัวเล็กบนตักซึ่งนอนหอบหายใจด้วยรอยยิ้มเศร้า มือหนาลูบบนกลุ่มผมนิ่มเบาๆ ก่อนก้มลงจูบขมับของเล่นแสนรัก

“วันนี้ฉันพอใจนายมากนะ พอใจกว่าทุกคืนที่เคยมีอะไรกับนายเสียอีก นายทำให้ฉันมีความสุขจนอยากจะเล่นกับนายให้เยอะกว่านี้จริงๆ”

“…”

จงอุนไม่ได้ตอบอะไร เขานอนฟังคำพูดของอีกฝ่ายพลางปล่อยให้น้ำตาร่วงลงซึมผ่านกางเกงราคาแพงของอีกคนเท่านั้น รสฝาดขมที่คอจากน้ำรักของอีกคนยังติดตรึงชวนให้อยากอาเจียน คนร่างเล็กรู้สึกหนาวจนต้องนอนขดตัวเองแล้วกระชับเสื้อสูทตัวใหญ่จากอีกคนบนตัวห่มไว้แน่น

“ฉันซื้อนายมานะ จงอุน” อยู่ๆ คังอินที่เงียบไปนานก็เริ่มพูดขึ้น “ฉันเป็นคนช่วยนายมาจากที่แห่งนั้น ถ้าหากฉันไม่ช่วยนายมาแล้วคนอื่นได้นายไป นายคิดว่านายจะยังมีชีวิตอยู่ให้หนีแบบนี้มั๊ย”

“…”

“ทำไมนายถึงต้องหนีฉันด้วยจงอุน พอฉันใจดีด้วยนายก็เพิกเฉยใส่ฉัน ไปหัวเราะต่อกระซิกกับทงเฮอย่างมีความสุข ไม่เคยปฏิบัติต่อฉันเหมือนคนอื่น ทำเหมือนฉันเป็นคนที่นายรังเกียจมาก พอฉันทำโหดเพื่อรั้งนายไว้เป็นของฉันคนเดียวนายกลับจะหนีฉันไป จงอุน…ฉันควรทำยังไงกันถึงจะได้นายมาทั้งตัวและหัวใจ”

คังอินเอ่ยเพ้อถามอย่างอับจนหนทางพลางวางมือลงบนหัวทุยสวย เขาเหลือบมองคนตัวเล็กที่เอาแต่นอนร้องไห้จนเขารู้สึกชื้นบริเวณต้นขา ความเงียบเกิดขึ้นบนรถ ต่างคนต่างเข้าสู่ห้วงความคิดของตนเอง

จงอุนอยากหนีไปจากคังอินเพราะไม่อยากเป็นแค่ของเล่นหรือคู่นอน ใช่…เขายอมรับว่าเขารักเจ้านายของเขา เพราะงั้นเขาจึงได้เจียมตัวและพยายามตัดใจ

ส่วนคังอินก็อยากกอดตัวอีกคนเอาไว้ให้แน่นๆ เพราะกลัวว่าวันเวลาจะมาพรากของรักของเขาไป เขาไม่ได้อยากทำร้ายจงอุนถึงขนาดนี้ แต่เพราะเขากลัว…กลัวว่าจงอุนจะจากเขาไปไกลแสนไกล

“นายนี่เหมือนแก้วเลยนะจงอุน” คังอินพูดเสียงเบาหวิว จงอุนเงยหน้ามองคนตัวหนาซึ่งนั่งท้าวคางมองออกไปนอกตัวรถ จงอุนสาบานว่าเขาไม่ได้ตาฝาดที่เห็นน้ำตาของคังอินไหลลงมา “แก้วที่ดูไม่มีพิษมีภัย แต่ถ้าจับแน่นมากไปมันก็จะแตกจนบาดมือคนถือทำให้เป็นแผลลึก…และเจ็บช้ำ”

จงอุนคงลืมไปว่าเขาคงถ่อมตัวมากเกินไป เลยทำให้ชายคนหนึ่งเข้าใจผิดและเดินผิดทาง

คังอินคงลืมไปว่าเวลาเราจับอะไรแน่นเกินไป สิ่งนั้นจะทำให้เราเจ็บปวดและเกิดบาดแผลเสมอ

ไม่นานรถลีมูซีนคันดำของคังอินก็เข้ามาจอดในคฤหาสน์ ทงเฮเป็นคนมาเปิดประตูรถให้เจ้านาย คนตัวหนาออกมายืนด้านนอกแล้วก้มไปอุ้มเอาคนตัวเล็กซึ่งมีเสื้อสูทของเขาห่มตัวไว้ออกมา ตามเรียวขาสวยมีแต่คราบน้ำรักที่ไหลออกมาจากภายในช่องทางสีชมพู

ทงเฮและเหล่าลูกน้องที่เห็นคนตัวเล็กในอ้อมแขนของเจ้านายตนนอนหมดสภาพก็ได้แต่รู้สึกสงสาร ไม่มีใครกล้ามองหน้านายตัวเอง ไม่มีใครกล้าถาม ได้แต่ปล่อยให้บรรยากาศอึดอัดมันไหลผ่านไปแบบนั้น

“ทงเฮ ไปเตรียมผ้าปูที่นอน น้ำอุ่น ผ้าขนหนู แล้วก็ดูแลจงอุนด้วยล่ะ”

“เอ๊ะ จะดีเหรอครับที่ให้ผมเป็นคนดูแลคุณจงอุน…”

“ดีสิ” คังอินว่าเสียงเรียบ สีหน้าเย็นชา เขาไม่มองหน้าจงอุนเลยสักนิด “ฉันเบื่อของเล่นชิ้นนี้แล้ว”

คังอินพูดจบก็อุ้มพาร่างคนตัวเล็กขึ้นไปชั้นสองของคฤหาสน์ เขาหันไปมองทงเฮให้มาเปิดประตูห้องนอนก่อนพาร่างเล็กเข้าไปวางบนเตียง คนตัวหนามองคนบนเตียงซึ่งเอาแต่ร้องไห้มาตลอดเพราะเจ็บปวด เขาหันหน้าหนีแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไรสักคำเพราะเขาเองก็ไม่ต่างกัน

ฉันตัดสินใจแล้วจงอุน .. ฉันจะปล่อยนายไป ปล่อยนายออกไปจากมือของฉัน ปล่อยไปจากหัวใจของฉัน ลาก่อนนะจงอุน

“เอ่อ…ขอโทษนะที่ทำให้นายต้องเจอเรื่องร้ายเพราะฉันอยู่เรื่อย”

“…” จงอุนไม่ได้ตอบ เพียงแต่นอนน้ำตาไหลอยู่แบบนั้น นานทีเดียวกว่าริมฝีปากแดงเจ่อจะเอ่ยขึ้นมา “โดนเบื่อแล้วล่ะ… ฮ่าๆ ก็ดี จะได้หลุดออกไปจากขุมนรกนี่เสียที”

จงอุนพูดออกไปงั้นทั้งที่ในใจมันเจ็บช้ำยิ่งกว่าถูกกระทำล่วงเกินเสียอีก เขาโดนเพิกเฉยใส่เหมือนเมื่อครู่ไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่กำลังจะได้รับอิสระอยู่ในอีกไม่ช้าแต่ไม่รู้ทำไมจงอุนถึงได้เศร้านัก

16/01/2015

รบกวนกลับไปเม้นที่ http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1280419 ด้วยนะคะ ขอบคุณค่าา 😀

[2woon feat.83line] My Lovely Pet: CHAPTER 6 -NC-

CHAPTER 6

“ปล่อยผมนะครับ!” จงอุนร้องออกมาเมื่อร่างกายโดนตรึงไว้กับหัวเตียง ข้อมือสองข้างโดนกุญแจมือล็อคเอาไว้ ขาทั้งสองถูกยกให้ตั้งชันแล้วข้อเท้าโดนเชือกมัดไว้กับเสาเตียง จงอุนเริ่มหวาดกลัวกับสิ่งที่จะเกิดในอีกไม่ช้า

“ได้สิ ถ้านายหลุดออกจากพันธนาการนี้ได้ ฉันจะปล่อยนายไป”

“จริงนะครับ” จงอุนเริ่มดิ้นทำเอาข้อมือที่เป็นแผลเมื่อคืนเสียดสีกับกุญแจมือ ความเจ็บแล่นแปลบไปทั่วร่างจนต้องนิ่วหน้า เลือดเริ่มซึมผ่านปกแขนเสื้อเชิ้ตตัวบางออกมา

“ดิ้นสิ ดิ้นเข้าไป เจ็บใช่มั๊ยล่ะ? หึ…นายจะได้จำไงว่าอย่าทำแบบนี้อีก!”

“ปล่อยผมเถอะครับ ฮึก…ได้โปรด” จงอุนเริ่มร้องไห้เมื่อเขาบิดข้อมือกับดิ้นจนเจ็บและชาไปทั้งตัว

“คืนนี้แหละฉันจะทำให้นายรู้ว่านายอยู่ในฐานะอะไร และฉันจะทำให้นายรู้ว่าใครกันแน่ที่มีสิทธิเล่นกับตัวของนาย!”

พูดจบคนตัวหนาก็ขึ้นมานั่งอยู่ตรงกลางหว่างขาของคนตัวเล็ก ริมฝีปากอิ่มถูกช่วงชิงไปอย่างง่ายดายโดยไม่มีอะไรมากวนใจ ข้อมือเล็กพยายามบิดออกจากกุญแจมือทั้งที่รู้ว่าทำไปก็ไร้ประโยชน์ จงอุนพยายามเบี่ยงหน้าหลบเรียวลิ้นร้อนนั้นแต่ก็โดนมือหนาบีบเข้าที่แก้มเหมือนเมื่อคืน ทำให้เขาจำใจต้องรับเอาลิ้นร้อนชื้นของอีกฝ่ายเข้ามาในปาก น้ำตาไหลลงมาอีกครั้งเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่นานริมฝีปากก็ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ

“ฮึก…ผมขอโทษ อะ…ผมขอโทษครับ ผมจะไม่ทำอีกแล้ว ฮึก…ปล่อยผมเถอะ ผมยอมแล้ว”

“ตัวนายนี่หอมจริงๆ นะ” คังอินเปลี่ยนประเด็นพลางซุกไซร้ไปตามซอกคอขาวเนียน จมูกโด่งไล้ไปตามลำคอพลางสูดเอาความหอมเข้าไปเต็มปอด เขาแลบลิ้นเลียไปตามลำคอระหงษ์แล้วขบเม้มทำรอยรักเอาไว้ มือก็เลื่อนเข้าไปใต้ผ้าผืนบางแล้วลูบไล้ไปตามลำตัวของเล่นของเขา

พอได้สัมผัสตามตัวของอีกคนคังอินก็ยิ่งมีอารมณ์ พอได้สูดดมไปตามร่างกายหอมเย้ายวนเขาก็ยิ่งอยากครอบครองมากขึ้น สองมือไล้ขึ้นไปยังแผ่นอกบางแล้วกดคลึงยอดไตสีสวยปลุกเร้าอารมณ์ดิบของอีกคนให้ตื่น ริมฝีปากอ้าออกพลางงับลงบนลำคอจนเป็นรอยฟัน

“อ้าก!…เจ็บ ฮึก ผมขอโทษ ฮืออ…ผมไม่กล้าแล้ว ปล่อยผมไปเถอะนะครับ ได้โปรด”

“นายเป็นแค่ของเล่นของฉัน เป็นแค่สัตว์เลี้ยงของฉัน ถ้าฉันให้นายไปตายนายก็ต้องไป”

คำพูดของคังอินดังขึ้นข้างใบหูเล็กก่อนริมฝีปากหยักจะเข้าขบเม้นติ่งหูเล่น จงอุนทำได้แค่ย่นคอเพื่อหลบความเสียวซ่านและการกระทำจากอีกฝ่าย น้ำตามากมายไหลลงเปรอะเปื้อนใบหน้าหวานเช่นเคย จิตใจบอบช้ำขึ้นไปอีกเท่าตัวพร้อมกับความไว้ใจที่เริ่มสั่นคลอน เขาพยายามขัดขืนแต่ความเจ็บที่ข้อมือทำให้ไม่สามารถขับตัวได้มากนัก ไม่นานเสื้อผ้าของเขาก็ถูกถอดออกไปหมด ของคังอินก็เช่นกัน

“อ๊า ฮึก…ได้โปรด ฮือ…อ๊าา คุณคังอิน” เสียงหวานร้องขอ สะโพกมนขยับสวนรับมือหนา ใบหน้าคมเพียงแค่ยิ้มรับคำของอีกฝ่ายพลางขยับแก่นกายเล็กขึ้นลงเนิบนาบ เขามองใบหน้าหวานที่สะบัดไปมาตามแรงอารมณ์ที่มีพลางหัวเราะชอบใจ ร่างกายเล็กบิดเร่าเพราะความต้องการที่มากขึ้น แต่เขากลับทำเนิบนาบตามเดิมและไม่สนใจเสียงร้องขอของอีกฝ่าย

“ใครกันที่บอกกล้าทำฉันมากกว่ากัด” คังอินถามพลางหรี่ตามอง “ปากดีให้ได้ตลอดสิ”

“ฮึก…ฮืออ อื้อออ” เสียงหวานครางกระเส่าเมื่อปลายนิ้วโป้งของอีกฝ่ายถูไถบนส่วนปลายของเขา สองขาพยายามหนีบเข้าหากันเพราะความเสียวซ่าน มือที่ถูกตรึงจิกเข้าลึกเช่นเดียวกับนิ้วเท้า

“ผม…ขอโทษ ฮึก…ฮือออ” ทำได้แค่ร้องไห้เท่านั้นสำหรับจงอุน คนตัวเล็กได้แต่อ้าปากขอร้องให้อีกฝ่ายช่วยปลดปล่อยให้เขาแต่ดูเหมือนมันแค่ทำให้คนกระทำสนุกขึ้นเท่านั้น ริมฝีปากอิ่มเผยอขึ้นครางทุกครั้งที่ปลายนิ้วเย็นลูบไล้ไปทั่วส่วนปลาย

จงอุนไม่ได้อยากทำเรื่องอย่างว่ากับคนตรงหน้า เขาไม่ได้อยากตกเป็นเครื่องมือหรือของเล่นของอีกฝ่าย แต่เมื่อโดนปลุกอารมณ์ดิบของความเป็นชายขึ้นมาเขาก็ทำได้แค่อ้าปากร้องขอให้อีกฝ่ายช่วยเพียงเท่านั้น ถึงร่างกายจะสุขสมเพียงใดแต่จิตใจกลับตกต่ำสิ้นดี มันเจ็บช้ำและรวดร้าวคล้ายแก้วที่กำลังปริแตก

แต่ถึงอย่างนั้น… ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเกลียดคังอินไม่ลง

เพราะอะไรกัน!! เพราะอะไร…

“ขอโทษเรื่องอะไรหื้ม” มือหนาหยุดขยับพลางเลื่อนหน้าไปใกล้คนหน้ากลม “ไหนบอกให้ได้ยินสิ”

“ขอโทษ…ที่ไปยุ่งกับคนอื่น” เสียงหวานปนแหบพร่าตอบกลับ ใบหน้ากลมแดงก่ำเพราะแรงอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง “ขอโทษที่ไปยุ่งกับทงเฮ อ๊ะ…”

เมื่ออีกฝ่ายพูดจบมือหนาก็ขยับมือขึ้นลงเร็วกว่าเดิมทำเอาคนร่างเล็กปรับอารมณ์แทบไม่ทัน สติกระเจิดกระเจิงหายไปหมดเหลือไว้แค่ความต้องการทางร่างกายเพียงเท่านั้น คนตัวเล็กสวนสะโพกรับมืออีกฝ่ายอย่างเผลอไผล สุดท้ายร่างก็กระตุกเกร็งพร้อมปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมาเต็มมือหนา

เฮือก!!! ร่างเล็กสะดุ้งเมื่อรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ถูไถไปตามช่องทางของเขา ดวงตาเล็กที่ปรือลงตวัดมองใบหน้าคมซึ่งเต็มไปด้วยแรงอารมณ์อย่างตกใจก่อนถดสะโพกหนี คนตัวหนายึดสะโพกอีกฝ่ายไว้แล้วคว้าเอาเศษเสื้อเล็กๆ มารัดปลายแก่นกายอีกคน รอยยิ้มกริ่มยกขึ้นมุมปากก่อนร่างหนาจะสอดแก่นกายเข้าไปในช่องทางแคบอย่างเร็ว

“อ๊ากกกกกกก!!!” คนตัวเล็กกรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดเมื่อไม่ได้เตรียมตัวก่อน ใบหน้าหวานบูดเบี้ยวอย่างทรมาน น้ำตาไหลพรากลงมาอีกครั้ง มือเล็กจิกเล็บเข้าหากันแน่นเพื่อระบายความเจ็บปวด เล็บจิกเข้ากับเนื้อจนเลือดซึม ช่องทางนั้นรัดแน่นจนคนตัวสูงไม่อาจขยับได้ ก่อนเลือดจะไหลซึมเมื่อมันฉีกขาด

“อย่าทำแบบนี้จงอุน อย่าเกร็ง ไม่งั้นจะยิ่งเจ็บ” เสียงเข้มสั่งแต่อีกฝ่ายเอาแต่ทำหน้าเหยเก “อะ…อย่าเกร็ง”

“ฮึก…ผมเจ็บ อะเอาออกไป เถอะนะครับ อึก…ฮือ”

“ใจร้ายจังนะ คิดจะสบายตัวอยู่คนเดียวเหรอไง”

คังอินพูดจบก็เอื้อมมือไปลูบโครงหน้าหวานแผ่วเบาก่อนก้มลงไปประกบจูบแสนหวานให้อีกฝ่าย ใช่…มันเป็นจูบแสนหวานที่ชวนให้ใจเต้น หลอมละลายและปล่อยตัวปล่อยใจ ทั้งที่กลัวแทบตายแต่พอได้รับรสจูบเช่นนี้ จงอุนก็ลืมไปทุกอย่างและตกอยู่ในห้วงของราคะ เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเผลอตอบรับรสสสัมผัสหอมหวานนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่ ในที่สุดแก่นกายของคังอินก็ดันเข้าไปจนสุดความยาว

“อ๊า…อึก อืออ คุณ อ๊ะคังอิน อืออ”

“เรียกชื่อฉันสิ จงอุนอ่า อือ…”

เสียงแหบพร่ากระซิบข้างใบหูเรียวเล็กพลางออกคำสั่ง ตอนนี้ร่างกายของเขากระแทกกระทั้นเข้าไปในตัวของจงอุนไม่หยุด และเพิ่มความเร็วขึ้นเมื่อแรงอารมณ์กำลังจะปะทุออกมา ความคับแน่นและร้อนระอุเป็นตัวช่วยเร่งอารมณ์อย่างดี ไหนจะแรงตอดรัดจากช่องทางสีหวานที่ทำเอาร้องซี้ดไปหลายครั้ง

“ยองอุน เรียกสิ”

“อ๊ะ อะ…ยอง อุน” เสียงหวานครางข้างใบหูอีกฝ่าย ตอนนี้ในหัวของเขาขาวโพลนไปหมดเมื่อแรงอารมณ์จะปะทุอยู่รอมร่อ ความคับแน่นที่ส่วนกลางซึ่งถูกเศษเสื้อมัดเอาไว้ทำให้เขารู้สึกอัดอึดจนอยากหวีดร้องออกมา เสียงหอบหายใจปนไปกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อ ไม่นานคนตัวใหญ่ก็ปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปในช่องทางสีหวานเต็มแรงจนไหลย้อนออกมา

“อา… นายเยี่ยมจริงๆ จงอุน”

“คุณคังอิน…”

เมื่อปลดปล่อยอารมณ์ออกไปแล้วคังอินก็ยิ้มกว้างก่อนก้มลงจูบขมับ เขาถอนแก่นกายออกแล้วแกล้งทำท่าจะลุกออกไปแต่กลับโดนเสียงหวานหยุดเอาไว้ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับบนใบหน้าคมก่อนจะหายไปเมื่อคนตัวใหญ่หันไปทำหน้าซื่อใส่อีกฝ่าย

“อะไร?”

“อึก…อือ คุณคังอิน” เสียงหวานเรียกอย่างออดอ้อน “ช่วยผม…ด้วย นะครับ”

“อะไรกัน ตอนแรกยังบอก อย่า หยุด อยู่เลยไม่ใช่เหรอไง นายนี่เอาใจยากจังนะ”

ไม่พูดเปล่าแต่คังอินยังเลื่อนมือมากดคลึงยอดอกแข็งขืนของอีกฝ่ายเล่น แผ่นอกบางเชิดขึ้นรับสัมผัสทันที ดวงหน้าหวานบูดเบี้ยวเพราะความทรมาน แก่นกายเล็กขยายใหญ่ขึ้นทุกทีแต่ปลดปล่อยไม่ได้เพราะถูกเศษเสื้อรัดเอาไว้ เรียวนิ้วยาวกดคลึงเม็ดทับทิมไปมาเรียกเสียงครางที่ช่วยปลุกอารมณ์ที่เพิ่งดับไปเมื่อครู่ของเขา

“ได้โปรด ผมยอมทุกอย่าง ผมแค่อยากปลดปล่อย ช่วย…ช่วยผมด้วย” จงอุนร้องขอ นั่นเป็นเพราะแรงอารมณ์ทำให้เขาพูดไม่คิดออกไป ตอนนี้ในหัวของเขามีแต่ความคับแน่นที่ปลายแก่นกายและความต้องการปลดปล่อยเพียงเท่านั้น

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายร้องขอคังอินก็มองใบหน้ากลมอย่างตกใจสักพัก ทั้งรู้สึกผิดหวังและดีใจผสมกันไปหมดเหมือนคนโรคจิต

ผิดหวังที่คนตัวเล็กดูใจง่ายต่างจากเมื่อวันก่อนซึ่งดิ้นรนไม่หยุด

ดีใจที่เห็นคนตัวเล็กร้องขอให้เขาเป็นคนช่วยปลดพันธนาการให้

เขาควรผิดหวังหรือดีใจดี?

ไม่นานรอยยิ้มเย็นก็ปรากฏบนมุมปากก่อนเขาจะปลดพันธนาการออกจากอีกฝ่ายจนหมด เขาเป็นฝ่ายนั่งแล้วยกตัวอีกคนขึ้นคร่อมทับ มือหนาจับแก่นกายตัวเองขึ้นจ่อช่องทางสีสวยก่อนกดสะโพกมนลงจนสุดความยาว

เสียงครางหวานดังขึ้นดังปนกับเสียงครางต่ำและเสียงเนื้อกระทบกัน มือเล็กจิกผมคังอินแน่นเพื่อระบายความเสียวซ่าน คังอินแก้เชือกที่อยู่บนปลายแก่นกายเล็กออก เขาจดจ้องมองใบหน้ากลมซึ่งแดงก่ำเพราะแรงอารมณ์ ริมฝีปากอิ่มซึ่งถูกดึงดูดจนแดงช้ำ ยิ่งมองก็ยิ่งหลงใหลจนอยากกกกอดร่างนี้ไว้เพียงคนเดียว

“เรียกชื่อฉันสิ”

“ยอง…อ๊ะ ยองอุน” จงอุนครางเรียกเสียงหวาน มือหนายกขึ้นกุมดวงแก้มป่องไว้แผ่วเบา เขาเอ่ยถามคนตัวเล็กตรงหน้าชิดริมฝีปาก

“นายต้องการฉันหรือเปล่า ต้องการฉันมากกว่าทงเฮหรือเปล่า”

“…ผะ อ๊ะ ผม ผมต้องการคุณ” เมื่อได้ยินแบบนี้สติของคังอินก็กลับมา…สติที่อยากครอบครองคนตัวเล็กด้วยความรักไม่ใช่แค่แรงอารมณ์ ยิ่งมองคนด้านบนเผยอปากครางเพราะการกระทำของเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากโดนหลอมละลายเพราะความร้อนระอุจากภายในร่างการบอบบางมากเท่านั้น

“จงอุน…นายเป็นแค่ของฉันคนเดียว คน เดียว… ฉันหวงนายนะ…จงอุน” ยองอุนกระซิบข้างใบหูเล็ก เขาย้ำประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบ มือหนาประคองใบหน้าหวานเอาไว้ ประกบจูบลงไปแผ่วเบาเนิ่นนานจนจงอุนร้องท้วง เขาจำใจต้องถอนมันออกจากนั้นก็ประกบจูบลงไปอีกครั้ง และอีกครั้งเมื่อดวงตาเรียวเล็กหวานเยิ้มสบมองเขา

“ครับ…ยองอุน” จงอุนไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขาตอบรับแบบนั้นไปได้ยังไง เขารู้แต่หัวใจมันเต้นระส่ำและดีใจกับคำว่าฉันหวงนายจากปากของยองอุน จงอุนยกสะโพกขึ้นลงเป็นจังหวะตามใจปรารถนา เสียงครางดังขึ้นระงมไปทั่วห้องนอนกว้างใหญ่ ทั้งสองปรนเปรอความสุขให้กันและกันอีกครั้งก่อนจะปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน

จงอุนซบไหล่หนาพลางหายใจหอบเพราะความเหนื่อย สติของเขากลับมาแล้วและจำภาพเหตุการณ์ทั้งหมดได้ดี จำได้ทุกคำพูดและทุกการกระทำ

คังอินวางร่างอีกฝ่ายลงพลางลูบกลุ่มผมนุ่มอย่างเบามือ ริมฝีปากหยักก้มลงจูบริมฝีปากอิ่มอีกครั้งแล้วผละออกมามองดวงหน้าหวาน

“ตอนนี้นายรู้หรือยังว่านายเป็นคนของใคร”

“…ครับ” เยซองตอบรับ “คุณคังอิน”

“เป็นเด็กดีแล้วฉันสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายนายอีก ตกลงมั๊ยจงอุน แต่ถ้านายกล้าให้ใครมาแตะต้องนายล่ะก็…ฉันจะลงโทษนายให้หนักกว่านี้ จะทำให้นายสลบอยู่ใต้ร่างฉันและขังนายเอาไว้แต่ในห้อง จะรุนแรงกับนายจนนายต้องหวีดร้องด้วยหวาดกลัว จะตอกย้ำให้นายจำขึ้นใจว่านายเป็นแค่ของเล่นของฉัน”

จงอุนไม่ได้แต่แค่มองตาคนตัวหนาด้านบน สายตาอ่อนโยนแบบเดิมทอดมองเขา แต่เมื่อได้ยินน้ำเสียงเหมือนปีศาจร้ายในตอนท้ายประโยคหัวใจของจงอุนก็กระตุกวูบ เขากำลังจะเอ่ยพูดแต่คังอินกลับพูดขัด

“ไม่ตอบแปลว่าตกลงสินะ เป็นของเล่นของฉัน ให้ฉันเล่นคนเดียว ตลอดไปเลยนะจงอุน”

“…มะ”

จงอุนโดนปิดปากทั้งที่ยังตอบไม่จบ เสียงหวานร้องครางออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า คังอินทำเรื่องอย่างว่ากับเขาซ้ำไปซ้ำมา ตามอารมณ์ปรารถนาของเจ้าตัวโดยไม่สนว่าเขาจะรู้สึกยังไง เมื่อจบยกแรกคังอินก็จะต่อทันที ต่อแล้วต่ออีกจนรุ่งสาง ในที่สุดคนตัวเล็กก็สลบไปเพราะความเหนื่อยหอบและหมดแรง

คังอินยืนกลัดกระดุมเสื้อเชิ้ตอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ สายตาคมเหลือบมองร่างเล็กบนเตียงซึ่งยังคงหลับใหลไม่ได้สติ ความรู้สึกห่วงผุดขึ้นกลางใจแต่เพราะกลัวว่าถ้าใจดีด้วยแล้วอีกฝ่ายจะหนีไปเขาก็ต้องเปลี่ยนท่าทีทันที พักนี้เขาเหมือนกลายเป็นคนสองบุคลิก เหมือนคนโรคจิต..เขาอยากลองไปพบจิตแพทย์ดูสักหน่อย แต่คิดไปคิดมาเขาก็รู้สึกว่าถ้าหากคนๆ หนึ่งไม่อยากจะเสียสิ่งไหนไป เราก็ต้องตีตราเอาไว้ไม่ใช่เหรอไงกัน

“รถพร้อมแล้วครับนาย”

“ไปกันได้แล้ว”

ประตูเปิดออกก่อนร่างของทงเฮจะโผล่เข้ามาในห้อง คังอินสะดุ้งแล้วเดินออกไปโดยไม่คิดจะสนใจร่างบนเตียงแม้แต่น้อย ทงเฮหันมองหาเพื่อนตัวเองซึ่งมีผ้าห่มคลุมแค่ช่วงเอวไว้ก็ต้องตาเบิกกว้างอ้าปากค้าง ดวงตาเรียวเล็กช้ำ ข้อมือของเพื่อนมีรอยเลือดกรังเป็นวงกลมรอบข้อมือทั้งสองข้าง สภาพร่างกายของเพื่อนเขาเต็มไปด้วยรอยรักมากมาย คราบน้ำขาวขุ่นและคราบเลือดเกรอะกรังบริเวณขา

ทงเฮรู้ทันทีว่าเมื่อคืนและเมื่อคืนก่อนเพื่อนของเขาต้องเจออะไร เพียงแค่คิดก็นึกขนลุกและอดกลัวแทนไม่ได้ เขาปิดประตูลงแล้วเดินตามหลังผู้เป็นนายไปเงียบๆ

เยซองในชุดคลุมอาบน้ำเดินไปยังห้องน้ำด้วยสภาพอิดโรยและขาสั่นจนแทบทรงตัวไม่ได้ พอเขาขยับทีความเจ็บและปวดที่สะโพกก็แล่นลิ้วขึ้นมา ไม่นานเขาก็มาถึงประตูห้องน้ำพอดีกับเสียงประตูที่เปิดออก คนตัวเล็กยืนตัวแข็งทื่อเพราะความตกใจและหวาดกลัว น้ำตาไหลลงมาทันที เขาไม่อยากเจอเรื่องบ้าๆ แบบเมื่อสองคืนก่อนอีกแล้ว

“จงอุน” เจ้าของชื่อหันไปมองทั้งน้ำตา “เป็นอะไรน่ะจงอุน ร้องไห้ทำไม”

“อย่า…อย่าเข้ามานะทงเฮ” จงอุนร้องห้ามเพื่อน “อย่าเข้ามานะ ถ้าเข้ามานะ…”

“ฉันขอโทษ” ทงเฮยอมหยุดแต่โดยดีและพูดขัดคำพูดของจงอุน เขารู้สึกผิดที่เป็นสาเหตุให้เพื่อนต้องเจอเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ “ขอโทษนะจงอุน ต่อไปฉันจะไม่เข้าใกล้นายอีก นายจะได้ไม่ต้องโดนคุณคังอินทำร้ายเอาแบบนั้น”

ทงเฮพูดจบก็รีบทำหน้าที่ของตนแล้วเปิดประตูออกไป ประตูปิดลงก่อนจงอุนจะหันไปยังห้องน้ำอีกครั้ง มือเล็กค่อยๆ เปิดมันออกพร้อมแทรกตัวเข้าไปอย่างยากลำบาก เขาแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้วเมื่อต้องรองรับอารมณ์ของคังอินที่ไม่รู้ว่ามาดีหรือมาร้าย ไม่รู้ว่ามันจะจบเมื่อไหร่ ร่างกายและจิตใจของเขาบอบช้ำเหลือเกิน เขายอมรับว่าเขากลัวที่คังอินเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขายอมรับว่ากลัวที่คังอินทำร้ายร่างกายเขา แต่เขาไม่ได้เจ็บปวดกับการกระทำเหล่านั้นมากกว่าคำพูดดูถูกจิตใจ และประโยคที่พร้อมจะทิ้งเขาเมื่อไหร่ก็ได้ถ้าหากคังอินเบื่อเขาแล้ว

เขาไม่อยากเป็นแค่ของเล่นหรือที่ระบายอารมณ์ให้คังอินอีกแล้ว ไม่อยากอีกแล้ว…

เขาอยากหนีออกไปจากที่นี่ เขาอยากหลุดพ้นจากนรกขุมนี้ ใครก็ได้ช่วยเขาที!

12/01/2015
รบกวนกลับไปเม้นท์ที่   ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ 😀