[SF] SteveTony: It wasn’t worth it

Title: It wasn’t worth it

Paring: STEVE x TONY [SF SteveTony]

Author: SaRa_PAO

Rate: 20+ (NC/Drama)

Note: ฟิคเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะอ่านโดเรื่องหนึ่ง เนื้อหาเกือบทั้งเรื่องเป็นฉากอย่างว่าที่ SM มาก ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ

ลูกกลวงปากคือเจ้านี่ >> จิ้ม

– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –

 

หลังจากสงครามกลางเมืองสิ้นสุดลง สตีฟ โรเจอร์ส หรือ กัปตันอเมริกาก็โดนจับกุมและถูกส่งตัวไปคุมขังยังที่ที่ไม่มีใครรู้เว้นก็แต่เป็นผู้สร้างมันขึ้นมา และจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากโทนี่ สตาร์ค

เมื่อมาอยู่ที่นี่สตีฟโดนทรมานอย่างหนักเพื่อให้สารภาพและยอมรับข้อกล่าวหาที่ตัวเองไม่ได้ก่อ เขาพยายามฝ่าฝืนและต่อต้าน ทว่ายิ่งเขาปฏิเสธมากเท่าไหร่เครื่องทรมานที่ตีตราสตาร์คอินดรัสทรี่ก็ยิ่งทรมานเขาจนสุดท้ายจิตใจก็โดนความมืดครอบงำ สตีฟเปลี่ยนไป ไม่ใช่กัปตันอเมริกาที่คอยช่วยเหลือผู้คนอีกต่อไปแล้ว หากแต่เป็นสัตว์ร้ายที่รอแก้แค้นคนที่มันทำเขาเจ็บถึงเพียงนี้ เขาเฝ้าหาทางให้ตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการของสตาร์คอินดรัสทรี่กระทั่งทำสำเร็จในที่สุด มันตรงกับวันที่โทนี่มาเยี่ยมเขาพอดี และแล้ววันที่เขารอคอยอย่างยาวนานก็มาถึงเสียที

ปึ้ง! ร่างเล็กที่เต็มไปด้วยรอยแส้จนเนื้อแตกโดนกระชากหัวไปโขกกับตู้กระจกที่ใช้คุมขังอดีตกัปตันอเมริกา กลิ่นเลือดโชยขึ้นมาทันที ความมึนงงปะทะจนเขาตั้งตัวไม่ติด ความเจ็บแปลบแทรกผ่านทุกอณูความรู้สึก ก่อนจะโดนกระชากผมให้หันไปมองใบหน้าคมที่ดวงตาไร้ซึ่งแววใดๆ

“ไม่ได้เจอกันนานนะครับ คุณสตาร์ค”

“ผมนึกว่าคุณตายไปแล้วซะอีก กัปตัน”

“ยังปากดีไม่เปลี่ยนเลยนะ โทนี่ สตาร์ค”

น้ำเสียงไม่พอใจดังลอดไรฟันคนตัวใหญ่ ดวงตาคมกริบจ้องโทนี่ราวกับจะฉีกร่างเป็นชิ้นๆ หากยังกล้าพูดอะไรอีก เขาไม่สนใจและจ้องกลับไปอย่างท้าทายเช่นกันแม้ว่าในใจจะกลัวมากแค่ไหนก็ตาม กัดฟัน กำมือซึ่งถูกอีกฝ่ายสวมที่รัดข้อมือไว้เอาไว้แน่น ก่อนจะโดนกำผมแน่นจนเขาต้องเงยหน้าขึ้นเพราะหนังหัวเหมือนกระชากอยู่ ลมหายใจดังฟืดฟาดเมื่อเจ็บและเกร็งต้นคอจนปวดไปหมด

โทนี่ในตอนนี้ถูกสตีฟใช้เชือกรัดตัวรวบแขนมัดไว้กับลำตัวเพื่อไม่ให้ขัดขืน สวมปลอกคอพร้อมสายจูงที่รัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก แถมยังถูกที่รัดข้อเท้าสวมไว้อีกด้วย ก่อนเขาจะโดนคนตัวใหญ่สวมลูกกลวงปากเข้าที่ปากแน่นเสียจนแทบพูดไม่ได้ เขาเบิกตากว้างและดิ้นให้หลุด แต่กลับโดนตบจนหน้าหันไปทางซ้ายมือตัวเอง กลิ่นคาวเลือดลอยเตะจมูก ความชาที่แก้มทำให้เขารู้ว่านี่ไม่ใช่ฝันร้ายแบบที่เคยเป็น

มือใหญ่บีบแก้มเขาให้หันไปมอง ใบหน้าคมยื่นมาใกล้จนรับรู้ได้ถึงลมหายใจที่เป่ารด โทนี่จ้องดวงตาคมอย่างเอาเรื่องและสู้ไม่ถอย แต่มันกลับเรียกสายตาสนุกสนานจากอีกฝ่ายเพียงเท่านั้น สตีฟหัวเราะในลำคอฟังดูขนหัวลุก ใช้มืออีกข้างที่ว่างไล้ไปตามตัวตั้งแต่อกไปจนถึงแก่นกลางของเขา เขาสะดุ้งเฮือกเมื่อมันโดนกอบกุมเอาไว้ด้วยมือเย็นเฉียบ ร่างกายสั่นเบาๆ ขนลุกไปทั้งตัว พยายามเบียดตัวออกห่างแต่คนตัวหนากลับแนบเข้าหาจนเกือบทุกสัดส่วนของเราชนกัน

“คุณรู้มั๊ยคุณเพลย์บอย ว่ามันมีเซ็กส์อยู่ประเภทหนึ่งที่ทำให้เราคลั่งจนตายได้ ถ้าไม่รู้ล่ะก็ ผมจะสอนคุณเอง อาจจะสอนได้ไม่เชี่ยวชาญเท่ากับคุณ แต่รับรองเลยว่าการสอนของผมสนุกไม่แพ้กันเลยครับ”

“อื้อออ!”

โทนี่ส่ายหน้าเป็นพัลวันเมื่อมือที่บีบแก้มเขาอยู่เลื่อนไปเค้นคลึงสะโพก เขามองสตีฟอย่างไม่พอใจโดยหวังว่าอีกคนจะยอมหยุดเหมือนทุกที แต่ไม่เลย สตีฟกลับใช้มือข้างที่กอบกุมส่วนกลางลำตัวเขาชักรูดมันขึ้นลงแผ่วเบา เขาหลับตาแน่นเมื่อสัมผัสกำลังถูกปลุกขึ้นมา บิดตัวและหาทางหนีจากปาจร้ายตรงหน้า พยายามปฏิเสธมันแต่ทำได้ยากเหลือเกินเมื่อเริ่มโดนสัญชาตญาณเข้ามาแทนที่สติ

“กลัวเหรอ โทนี่” น้ำเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามข้างหู เขาปรือตาขึ้นมองอีกฝ่าย “ทั้งที่คุณออกจะชอบเรื่องแบบนี้แท้ๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโทนี่ สตาร์คกลัวเซ็กส์”

“…”

เขาเงียบ ไม่ใช่ว่าไม่อยากตอบหากแต่โดนปิดทางไม่ให้ตอบ เมื่อสตีฟเห็นว่าเขาไม่ได้ตอบสนองอะไรกลับไปก็กระตุกยิ้มขึ้นครู่หนึ่งแล้วแสดงสีหน้าผิดหวังออกมา เขารู้ว่านี่มันเป็นสีหน้าที่หลอกลวงที่สุดเท่าที่เคยเจอ แล้วมันก็น่ากลัวมากที่สุดเท่าที่เคยเจอด้วยเช่นกัน

“เรามาเริ่มบทเรียนกันเลยดีกว่า เวลาไม่คอยท่านะครับ คุณสตาร์ค”

“ไอ้เอา (ไม่เอา)” โทนี่ฝืนพูดก่อนโดนตบจนหน้าหันไปทางขวา “ไอ้… เอา… (ไม่… เอา…)”

“คุณนี่ไม่มีรยาทยังไงก็ยังไม่มีมารยาทอยู่วันยังค่ำ ผู้ใหญ่พูดอะไรห้ามเถียงรู้มั๊ย ต้องฟังเงียบๆ แล้วปฏิบัติตามเท่านั้น”

สตีฟพูดจบก็ส่งยิ้มกว้างให้เขา ผละมือออกไปจากสะโพกทว่ามืออีกข้างกลับอยู่ที่เดิม นิ้วโป้งของแคปไล้ไปตามปลายก่อนถูเร็วขึ้นเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของเขาให้ตื่นขึ้นมา เขาถดตัวหนี หลับตาแน่น เม้มลูกกลวงจนปากเจ็บไปหมด พยายามตั้งสติให้อยู่กับตัวและไม่เดินตามเกมปัญญาอ่อนของอีกฝ่าย ดูเหมือนคนตัวใหญ่จะรู้จึงชักรูดส่วนกลางลำตัวเขาขึ้นลงจากเนิบนาบเปลี่ยนเป็นเร็วตามลำดับ ก้มหน้าลงหยอกเย้ากับแผ่นอกที่กระเพื่อมตามจังหวะหายใจของเขา และนี่ทำให้สติที่เขาประคองไว้เริ่มจางไปทีละน้อย

“อุด! (หยุด!)” โทนี่พูดออกมาอย่างยากลำบากแต่อีกฝ่ายกลับเร่งจังหวะมากกว่าเดิม “อื้อ…อึ้ก”

“อย่าปฏิเสธสิ่งที่ตัวเองชอบสิ ทีแต่ก่อนตอนอยู่ด้วยกันคุณแทบจะลากผมเข้าห้องไปสนองให้คุณทุกคืน นี่ไงครับ ผมกำลังสนองให้คุณอยู่ ถ้ายังไม่ยอมเชื่อฟังกันดีๆ ผมจะทำโทษคุณนะ โทนี่”

โทนี่ไม่สนใจ ถดตัวหนีออกห่างจากอีกฝ่าย จ้องมองกลับไปด้วยความเจ็บช้ำและคับแค้นใจ ลมหายใจแรงเพราะอารมณ์คุกรุ่นที่ปะทุอยู่ในอก สตีฟผละตัวออกไปในที่สุด คิ้วเข้มเลิกขึ้น สีหน้าฉงนจนเห็นได้ชัด ก่อนก้มหน้าลงจนผมปรกหน้าแล้วเงยขึ้นพร้อมชกเข้าลิ้นปี่จนเขาจุกตัวงอ ดวงตาเขาเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อสายตา ภาพของสตีฟผู้อ่อนโยนที่คอยอยู่เคียงข้างเขาเหลือไว้แต่สัตว์ร้ายที่กำลังจะฆ่าเขา

“ชอบแบบซาดิสม์ก็ไม่บอกนะครับ คุณสตาร์ค” สตีฟก้มมากระซิบข้างหู “เพราะผมจะได้จัดให้”

“…”

โทนี่จุกจนพูดไม่ออก ผมเขาโดนกระชากให้เงยหน้าขึ้น มือใหญ่ดันหน้าผากเขาให้หัวชิดกระจกห้องขัง จากนั้นก็ก้มลงกัดยอดอกเขาอย่างแรง

“อื้อ!!” เขาร้องลั่น ประสาทสัมผัสทุกด้านตื่นขึ้นทันที ร่างกายเกร็งไปหมด “อะ…เอ็บ (จะ…เจ็บ)”

“ถือเป็นการทำโทษเด็กนิสัยไม่ดีที่ขัดขืนคำสั่งของผู้ใหญ่” พูดจบสตีฟก็กัดอีกข้างด้วยแรงเท่าเดิม

“อื้อ! อึ้ก… ฮึก”

ไม่รู้ทำไมแต่โทนี่คิดว่าครั้งนี้มันกลับเจ็บกว่าครั้งแรก เขาเม้มริมฝีปากกับลูกกลวงจนปากแตก แสบไปทั้งตัว แม้แต่หัวใจก็เช่นกัน เขาไม่เข้าใจว่าอะไรถึงทำให้สตีฟที่เขารู้จักเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ สตีฟที่เขารักหมดหัวใจหายไปไหนทำไมถึงเหลือแต่สตีฟ โรเจอร์สที่ไม่ต่างอะไรจากปีศาจตนหนึ่ง

“อึ้กอื้อ…อืม” เขาครางเสียงเบาเมื่อโดนเลียท้องน้อยใกล้กับแก่นกลาย “อื้ม…อื้ออ”

สตีฟไม่ได้พูดอะไรและยังคงหยอกเย้าบริเวณเดิมอยู่อย่างนั้นเหมือนเด็กที่กำลังสนุกตอนเล่นของเล่น เขาพยายามถดหนีอีกครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จแถมยังโดนทำร้ายร่างกายจนช้ำและเจ็บไปหมด แรงที่เหลือไว้ต่อต้านก็แทบไม่มีอยู่อีกแล้ว เหมือนร่างกายโดนดูดพลังออกไปจนหมด ดวงตาปรือไปตามแรงปรารถนาที่คนตัวสูงปลุกขึ้นมา ร่างกายตอบรับราวกับมีความสุขร่วมกับอีกฝ่าย ทว่าภายในใจกลับบอบช้ำและมืดหม่นจนยากจะบรรยายเป็นคำพูด

แล้วโทนี่ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อโพรงปากอุ่นครอบครองแก่นกายเขาเอาไว้พร้อมขยับขึ้นลง เรียวลิ้นร้อนไล่เลียตั้งแต่โคนจรดปลายเหมือนกลัวหากทำไม่หมดแล้วจะมีตรงใดตรงหนึ่งน้อยใจ จากนั้นความเร็วก็เพิ่มขึ้นจนโทนี่สติกระเจิง เผลอแอ่นสะโพกสวนกลับตามอารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้นมา ไฟรักโหมกระพือจนยากจะดับ ภายในหัวขาวโพลน รับรู้ก็แต่สัมผัสจากอีกฝ่ายเพียงเท่านั้น เขาพยายามส่งเสียงครางเพื่อลดความเสียวซ่านที่พุ่งเข้าปะทะไม่หยุด ราวกับโดนยิงด้วยปืนในคราเดียว จังหวะถูกเร่งขึ้นอีกครั้งจนโทนี่หายใจไม่เป็นจังหวะ ไขว่คว้าหาที่ยึดเมื่อขามันอ่อนแรงไปหมด เรือนผมนุ่มชื้นไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าแดงระเรื่อสะบัดไปมา จังหวะถูกเร่งเร็วขึ้นจนโทนี่ใกล้ถึงฝั่งฝันเต็มที ร่างทั้งร่างเกร็งแน่นพร้อมปลดปล่อยแต่ความฝันก็ต้องพังลงไปเมื่อสตีฟผละริมฝีปากออก เขาปรือตาขึ้นมองคนตัวใหญ่ที่ลุกขึ้นมายืนประจัญหน้ากันตามเดิม รอยยิ้มสมเพชส่งมาให้ เขาหายใจหอบและบิดตัวเพื่อบอกให้คนตัวสูงรู้ว่าอยากปลดปล่อยจริงๆ

“อย่าเพิ่งรีบสิ ที่รัก เวลาของเรายังเหลือเฟือ”

คนตัวสูงพูดเสียงแหบพร่า เอื้อมมือเข้าในกระเป๋ากางเกงหยิบที่ครอบมาสวมลงบนปลายแก่นกายของเขา ดวงตาของเขาเบิกกว้างทันทีเมื่อมันรัดแน่นจนอึดอัดและทรมาน ไม่เพียงแค่นั้น อีกฝ่ายยังใช้สลิงสอดเข้าในรูบริเวณปลายเพื่อกันไม่ให้มีอะไรไหลออกมา ความคับแน่นจวนเจียนจะระเบิดเข้าครอบงำสติทั้งหมดจนเขาถึงกับทรุดไปนั่งกับพื้น หายใจหอบแรง ช้อนสายตามองอีกฝ่ายไม่สนแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ตอนนี้เขาแค่อยากปลดปล่อยมันออกไป ขอแค่นี้ จะให้เขาทำอะไรเขาก็ยอม สตีฟส่งสายตาเข้าใจมาให้

“อยากปลดปล่อยเหรอ โทนี่” เขาพยักหน้ารัวๆ สตีฟหัวเราะลั่น “งั้นก็ขอร้องให้ผมยอมช่วยสิ”

เขาไม่ตอบ ในใจรับรู้ได้ถึงความเจ็บร้าวที่ลึกลงไปอีก สตีฟท้าวเอวมองเขาอยู่พักใหญ่ จากนั้นก็เดินมาแกะลูกกลวงปากออกให้ก่อนประกบริมฝีปากลงมา เรียวลิ้นหนาสอดเข้ามาเก็บเกี่ยวทุกอย่างที่ตัวเองอยากได้กลับไป มันเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของเขา ริมฝีปากหนาดูดดึงริมฝีปากเขาอย่างหื่นกระหาย เขาพยายามตอบสนอง ยอมทำทุกอย่างให้อีกฝ่ายพอใจเพื่อจะได้ปลดปล่อยเสียที พยายามออดอ้อนเหมือนลูกแมวอยากหาเจ้าของ ตอบรับทุกอย่างเมื่ออีกฝ่ายสนองมา ในหัวคิดแต่เรื่องปลดปล่อยเท่านั้น

“อยากปลดปล่อยหรือเปล่า โทนี่” เสียงทุ้มกระซิบถามข้างหู “ตอบผมที”

“หยะ…อยาก อยาก อยาก อยาก” โทนี่ย้ำ อีกฝ่ายยกยิ้ม “อยาก…อยาก”

สตีฟไม่ตอบแต่จับเขานอนหงายกับพื้นพร้อมอ้าขาเขาออก จากนั้นก็ลุกไปหยิบไวเบรเตอร์มากดเปิดสวิตซ์ ถูไถมันไปตามช่องทางของเขา เขาสะดุ้งโหยง ขาสั่นและอ่อนเปลี้ยเพลียแรงไปหมด ความคับแน่นเพิ่มขึ้นอีก สลิงที่เสียบอยู่ด้านในโดนดันขึ้นมาเล็กน้อยแต่สตีฟกลับกดมันลงตามเดิม ความเจ็บแล่นริ้ว

“อ๊าาา! หยะ…อย่าทำแบบนี้ ได้โปรด ฉันอยากปลดปล่อยจริงๆ”

“คนปากแข็งแบบคุณ ถือทิฐิแบบคุณ เอ่ยขอร้องผมอย่างงั้นเหรอ”

“…ใช่” โทนี่กัดฟันกรอด “แต่อย่าได้เข้าใจผิดล่ะ เพราะมันจำเป็นต้องเอาตัวรอดต่างหาก”

สตีฟยกยิ้ม ลูบแก้มของเขาขึ้นลงแผ่วเบาจากนั้นก็สอดไวเบรเตอร์ที่สั่นไม่น้อยเข้าไปภายใน เขาสะดุ้ง หนีบขาเข้าหากันเมื่อรับรู้ได้ถึงความรู้สึกแปลกๆ แต่คนตัวใหญ่กลับใช้มืออ้าขาเขาออกกว้าง สอดไวเบรเตอร์เข้าไปจนสุด จากนั้นก็ชักเข้าชักออกโดยไม่ให้เขาได้ตั้งแต่แม้แต่น้อย

เขาครางกระเส่าตามอารมณ์ที่โดนปะทุขึ้นมา หายใจผิดหายใจถูกมั่วไปหมด เผยอปากส่งเสียงร้องอย่างสุขสมตามแรงปรารถนาที่ได้รับ รู้สึกได้ถึงสลิงที่โดนดันขึ้นเรื่อยๆ พร้อมความคับแน่นที่อยากปะทุเต็มที แต่มือหนากลับกดมันกลับและใช้นิ้วโป้งกดเอาไว้ เขาร้องลั่นอย่างทรมาน สะบัดหน้า บิดตัวเร่าๆ ช้อนสายตาอ้อนวอนมองสตีฟที่หัวเราะกับการกระทำของตัวเองอย่างสนุกสนาน

ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรต่อ สตีฟก็กระชากสายคล้องคอให้เขาลุกมาคุกเข่า คนตัวใหญ่ปลดเปลื้องกางเกงตัวเองออกไปอยู่ที่ข้อเท้า แก่นกลางอีกฝ่ายชูชันอยู่ตรงหน้า เขารู้ทันทีว่าสตีฟต้องการอะไร

“ช่วยให้ฉันปลดปล่อยก่อนสิ แล้วฉันจะช่วยนายเหมือนกัน”

“นายเปลี่ยนไปมากนะ อึ้ก …รู้มั๊ย กัปตัน”

“คนที่ทำให้ผมเปลี่ยนไปไม่ใช่ตัวผม โทนี่”

สตีฟตอบ เขาจับได้ว่ามันฟังดูเศร้าและแฝงไว้ด้วยความแค้นบางอย่าง ก่อนมันจะกลับไปเป็นเย็นชาชวนขนหัวลุกตามเดิม คนตัวใหญ่ก้าวมาอยู่ด้านหน้าเขา จับหัวเขาแน่นแล้วดันให้เข้าไปใกล้ของสงวนของตัวเอง มือใหญ่ดึงรั้งปลอกคอให้ตึงกว่าเดิมจนเขาหายใจแทบไม่ออก ต้องรีบจับต้นขาอีกฝ่ายไว้แน่นเพื่อบอกว่าตอนนี้ที่เป็นอยู่มันทรมานมากแค่ไหน แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะสุขสมเมื่อเห็นเขาทุกข์ทรมาน

“ไม่อยากทรมานมากกว่านี้ก็รีบทำตามที่สั่งซะสิ คุณสตาร์ค”

“อั้ก…หะ หายใจไม่ออก อึ้ก อื้อ”

“เร็วสิ” สตีฟเร่งแล้วรั้งสายจูงมากขึ้น “อย่าให้ผมต้องพูดซ้ำอีก”

โทนี่เริ่มหน้ามืดเมื่อลมหายใจแทบไม่เหลือ ต้องยอมอ้าปากครอบครองแก่นกายอีกฝ่ายเข้ามา รสชาติแปลกๆ ทำให้เขารู้สึกแย่ไม่น้อย แต่เมื่อคุ้นชินกับมันความรู้สึกนั้นก็จางหายไป เขาเริ่มจากจังหวะช้าๆ ก่อนเร่งให้เร็วขึ้นเมื่อได้ยินเสียงครางต่ำอย่างสุขสมจากอีกฝ่าย มือใหญ่ขยำผมเขาแน่นและสวนสะโพกกลับมาไม่หยุด แถมยังเร็วกว่าที่เขาจะตอบสนองได้อีก ความรู้สึกเจ็บใจถาโถมเข้าใส่จนโทนี่ต้องหลับตาลงแน่น กล้ำกลืนฝืนทนทำออรัลเซ็กส์ให้แฟนเก่าที่สร้างบาดแผลใหญ่ไว้ในจิตใจ ไม่นานสตีฟก็ปลดปล่อยทุกอย่างเข้ามาในปากจนเขาสำลัก อยากจะคายน้ำขาวขุ่นฝาดขมคอออกไปให้หมดแต่มือใหญ่กลับเอื้อมมาปิดปากพร้อมบังคับให้เขากลืนมันลงไปทั้งหมด เขาจำเป็นต้องทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้

“เด็กดี” สตีฟพูดชมแล้วก้มลงจูบขมับเขาแผ่วเบา “ตามสัญญา ฉันจะให้นายปลดปล่อย”

โทนี่ลิงโลดเมื่อตัวเองจะได้ปลดความทรมานนี้ไปเสียที แต่ดูเหมือนเขาจะคิดผิดเมื่อสตีฟเอื้อมไปดึงไวเบรเตอร์ออก จากนั้นก็นั่งลงพร้อมดึงเขาให้ขึ้นคร่อม คนตัวสูงยกสะโพกเขาขึ้นก่อนสอดนิ้วเข้าไปทีเดียวสามนิ้ว นั่นทำเขาตกใจจนเกร็งแน่น มันเจ็บและจุกจนไม่กล้าขยับ เขาหันไปมองอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อสายตา กำลังจะถามแต่กลับต้องเปลี่ยนเป็นครางเมื่อสตีฟขยับนิ้ว ช่องทางตอบสนองตามจังหวะคนตัวสูง

“อ๊ะ…อ๊า อ่าห์~…หยะ หยุดแกล้ง กันเสียที”

“มีแรงแค่นี้เองเหรอ” สตีฟถาม “ผิดหวังจัง”

เขาไม่รู้ว่าที่สตีฟพูดหมายถึงอะไร แต่มันก็ทำเขาทั้งอายทั้งโกรธจนหน้าแดง คนตัวใหญ่หัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดีแล้วขยับนิ้วให้เร็วขึ้น เขาบิดเร่าจนตัวรวมถึงข้อมือโดนเสียดสี รู้สึกแสบไปหมด เจ็บด้วย แต่มันก็เสียวซ่านและรู้สึกดีจนเขาปฏิเสธไม่ลงเช่นกัน ยิ่งร่างกายโดนกระแทกเข้ามามากเท่าไหร่เขาก็อ้าปากครางดังเท่านั้น หายใจกระเส่าเมื่อความคับแน่นดันสลิงขึ้นได้ครึ่งหนึ่ง เขามองมันและขอให้สตีฟไม่เห็น แต่ดูเหมือนพระเจ้าจะไม่เข้าข้าง มือหนากดมันลงกลับไปที่เดิมและนั่นทำให้เขาเจ็บมากจนน้ำตาซึม

 

You’re the pain

You’re the fear

 

“ผมโดนทรมานมากกว่าที่คุณโดนหลายร้อยเท่า” สตีฟพูดอยู่ข้างหู เขาหันไปมองอีกฝ่ายที่มองเขาด้วยสายตาเศร้า “เครื่องมือทรมานรวมถึงที่คุมขังนี่ มันมาจากบริษัทคุณ โทนี่ คุณทำร้ายผมจนเกือบตาย”

“…ไม่ใช่ ผมไม่ได้ อ๊า ไม่ได้เป็นคนสั่ง อึ้ก อื้อ เชื่อผมเถอะ”

“ถ้าไม่ใช่คุณสั่งแล้วใครจะเป็นคนสั่ง นี่มันของๆ คุณทั้งนั้น”

โทนี่ส่ายหน้าปฏิเสธแต่สตีฟไม่สนใจ สายตากลับไปว่างเปล่าเช่นเคย จากนั้นนิ้วทั้งสามก็ถอนออกไปก่อนอะไรอย่างอื่นที่แข็งขืนและใหญ่กว่ามากจะแทรกผ่านเข้ามา เขาสะดุ้งเฮือกจนต้องจิกเล็บ ตัวเกร็งไปหมดจนสั่น ความเจ็บปวดแล่นริ้วราวกับร่างกำลังโดนฉีกขาด ยิ่งคนตัวใหญ่พยายามฝืนเข้ามา มันก็ยิ่งเจ็บจนเขาต้องก้มหน้าลงซบไหล่หนา กัดปากแน่นจนห้อเลือด น้ำตาไหลพรั่งพรู

“ดะ…เดี๋ยว ผมเจ็บ ได้โปรด อย่าเพิ่ง ผมเจ็บ กัปตัน”

“…” สตีฟไม่ได้ตอบอะไรกลับมาและพยายามดันเข้ามาอีก “แต่ผมเจ็บยิ่งกว่าตอนรู้ว่าคุณส่งเครื่องมือทรมานทั้งหมดมาเพื่อบังคับให้ผมยอมรับข้อกล่าวหาที่ผมไม่ได้ทำ ผมเจ็บยิ่งกว่าที่เห็นคุณทำร้ายผมทั้งที่ผมเชื่อใจว่าคุณคือคนที่เข้าใจผมที่สุด”

‘I’m sorry Tony. I wouldn’t do this if I have any other choice’

โทนี่นึกถึงประโยคที่สตีฟบอกกับเขาขึ้นได้ เขามองใบหน้าคมที่ฉายแววเสียใจและผิดหวังเป็นอย่างมาก คนตัวสูงส่ายหน้าไปมาเหมือนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเจอ เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดจากอีกฝ่ายที่แผ่ซ่านออกมา

แต่สตีฟเข้าใจผิด เขาไม่ได้เป็นคนสั่งหรือทำอุปกรณ์พวกนั้นรวมถึงที่คุมขังนี่ขึ้นมา

สตีฟสูดลมหายใจเข้าลึก ฝืนกดสะโพกเขาลงอีกแต่เขาก็ฝืนเอาไว้ เงยหน้าขึ้นหวีดร้องสุดเสียงแล้วก้มลงซบไหล่ พูดไม่เป็นศัพท์เพื่อขอร้องอีกฝ่าย

“อ้ากกกกกก!!! ผมเจ็บ ได้โปรด…แคป ขอผมตั้ง ตัว…สักพัก ได้มั๊ย…ฮึก ผมเจ็บจริงๆ”

“ทีตอนผมขอร้อง ไม่เห็นจะมีใครฟัง ตอนผมอ้อนวอน คุณไปอยู่ที่ไหนเหรอ โทนี่ของผม”

“อั้ก…ผมเจ็บ ขอร้อง ผมขอร้องแคป ได้โปรด แคป” เขาก้มหน้าลงซบใบหน้าเปื้อนน้ำตากับบ่ากว้าง หลับตาแน่นเมื่อสตีฟพยายามดันแก่นกายตัวเองเข้ามาจนความเจ็บพุ่งมาปะทะทุกที่ตามร่างกาย “แคป…ผมขอร้อง ได้โปรด ได้โปรด…ผมเจ็บจริงๆ แคปฮึก ขอร้อง”

โทนี่อ้อนวอน สตีฟหยุดให้ตามคำขอ เขาหายใจหอบ มือสองข้างที่จิกจนเล็บฝังกับเนื้อนั้นเลือดไหล มือหนาเอื้อมขึ้นลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของเขาราวกับจะปลอบประโลม แต่เขารู้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้น สตีฟก็แค่อยากจะผ่านด่านนี้ให้เร็วที่สุด เพราะเจ้าสิ่งที่จ่อคาอยู่ในตัวเขามันกำลังขยายขึ้นทุกครั้งที่เขารัดหรือขยับเขยื้อน สักพักใหญ่ความเจ็บก็ทุเลาลง เขาสูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อเริ่มชิน แต่ในตอนนั้นเองสตีฟก็ดันแก่นกายตัวเองเข้ามาจนสุด เขาหวีดร้องลั่น

“อ้าก!!!! ไม่ แคป เอาออกไปก่อน แคป… แคป” เขาอ้อนวอนเสียงแหบพร่า ความเจ็บแล่นริ้วขึ้นมาเมื่อช่องทางด้านหลังโดนฉีกขาด แต่คนตัวสูงไม่ฟัง หนำซ้ำยังขยับสะโพกเขาขึ้นลงอีกด้วย “แคป…ผมเจ็บ”

“คุณจะได้รู้ไงว่าสิ่งที่คุณทำกับผมมันก็เจ็บไม่ต่างกันเลย”

“อื้อ…ผมเจ็บ จริงๆ แคป ผมขอร้อง ขอผมตั้งตัวก่อนได้มั๊ย”

เขาพูดไปก็ครางเสียงต่ำไปเพื่อหวังว่ามันจะช่วยคลายจากความเจ็บปวดได้บ้าง สตีฟขยับเข้าออกช้าๆ พร้อมใช้มือข้างหนึ่งกระชากผมเขาให้แหงนมองหน้าตัวเอง แววตาเศร้าในแบบที่เขาไม่เข้าใจฉายชัดในดวงตาคมกริบ นัยน์ตาสีฟ้าเคลือบไปด้วยความหม่นหมองจากความผิดหวัง สีหน้าที่เคยอ่อนโยนเสมอแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉยที่แฝงไว้ด้วยความปวดร้าวอยู่ภายใน

“ผมเจ็บมากแค่ไหนคุณเคยรู้มั๊ย ตอนที่ผมโดนส่งมาที่นี่ ผมต้องเจออะไรบ้างคุณเคยรู้มั๊ย”

“อึ้ก อื้อ อ๊าาาแคป…ตรงนั้น” เขาเองก็อยากจะตอบคำถามอีกฝ่าย แต่สตีฟกลับจี้จุดภายในตัวเขา ความเจ็บกระเจิงไปทันที เหลือไว้แต่ความเสียวซ่านที่ชวนให้รู้สึกดี คนตัวใหญ่กระแทกกระทั้นตรงจุดเดิมอีกครั้ง สติของเขาเหลือไว้แค่ความต้องการ “อ๊า! อื้อ นั่นแหละ เร็วอีก”

จากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไร สตีฟเร่งจังหวะเร็วขึ้น เขาก้มเอาหน้าผากชนหน้าผากอีกฝ่าย เผยอปากครางไม่หยุดจนน้ำลายหยดลงเปรอะไปหมด สลิงโดนดันขึ้นสูงจนแทบหลุดในอีกไม่นาน เขาเร่งจังหวะและตอบสนองอีกฝ่ายเพื่อเบี่ยงประเด็นไม่ให้โดนจับได้ แต่ก็อีกเช่นเคย มัดโดนดันกลับเข้าไปอีกครั้ง

“อ๊า!! ฮึก แคป ได้โปรด ฉันอ๊ะ เจ็บ ทำแบบนี้ อ๊ะ…ฮึก มันเจ็บ อึ้ก อะ อะ อ้าาา…เจ็บ แคป”

“ความเจ็บปวดที่ผมได้รับมันยังไม่ถึงครึ่งที่คุณได้รับด้วยซ้ำ ไม่ถึงครึ่งกับที่ผมเจอมาตลอด”

เมื่อเห็นเขาทรมานมากเท่าไหร่สตีฟก็ยิ่งเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นมากเท่านั้น เขาน้ำตาไหลพราก ครางผสมร้องขอความเห็นใจแต่ไม่ได้ผล สะบัดหน้าและตัวไปมาตามแรงอารมณ์ที่ปลุกปั่นอยู่ภายใน คนตัวใหญ่เอื้อมมือมาแกะเชือกที่รัดตัวและที่รัดข้อมือเขาออก เขารีบใช้สองมือขยุ้มเรือนผมสีทองไว้แน่นเมื่อเสียวสะท้านจนร้องไม่เป็นภาษา แอ่นตัวขึ้นสูงแล้วสวนสะโพกกลับลงไปลึกๆ เพื่อรับแรงกระแทกให้มากกว่าเดิม ในหัวขาวโพลนและอยากจะปลดปล่อยเต็มที แต่ก็ทำได้แค่นั้นเมื่อโดนกดปลายแก่นกายเอาไว้ จนในที่สุดความอดทนของเขาก็หมดลงเมื่อคนตัวใหญ่กระแทกกระทั้นจุดกระสันของเขาไม่หยุด

“คะอ๊า แคป มันเสียว อื้อออ พอก่อน อ๊าไม่ พอแล้วอ๊ะ มันทรมาน แคป…ได้โปรด”

“อ่าห์…อื้อ เป็นเด็กดีสิ โทนี่”

“อ๊าาา ตรงนั้น พอ…ไม่เอาแล้ว เสียว อ๊ะ…แคป นี่…อื้มมม อ่าาห์ สตีฟ สตีฟได้โปรด หยุด หยุดก่อน หยุดที …สตีฟ”

เขาเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงแห้ง คนตัวใหญ่ชะงักไปชั่วครู่ จังหวะเปลี่ยนไปเป็นช้าลงเล็กน้อย เขากระชับโอบรอบคออีกคนแน่น สะอื้นไห้อยู่ข้างใบหูสตีฟเมื่อทนรับเรื่องทั้งหมดไม่ไหวอีกต่อไป

“ขอร้องล่ะ ให้ฉันปลดปล่อยเถอะนะ มันทรมานมากจริงๆ ฉันทนไม่ไหวแล้วจริงๆ” เขาสะอื้น ซบหน้าลงกับขมับอีกฝ่าย เอ่ยถามอย่างเสียใจและเจ็บปวดไม่ต่างจากอีกคนเลย “ไม่รักกันแล้วเหรอ สตีฟ”

“…”

“ไม่รักฉันแล้วงั้นเหรอ สตีฟ”

“…” สตีฟเงียบหายไปนาน มือหนาโอบกอดเขาไว้แผ่วเบาแล้วกระซิบตอบกลับมา “มันจบแล้ว”

“?”

“มันจบลงตั้งแต่วันที่บั้คกี้กลับมา ทุกอย่างระหว่างเรามันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบทั้งนั้น ผมอาจจะเคยรักคุณนั่นก็เพราะผมไม่เหลือใครจริงๆ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ผมไม่ได้รักคุณอีกแล้ว ตรงกันข้าม ผมเกลียดจนอยากจะฆ่าให้ตายทั้งเป็นด้วยซ้ำ”

“…เพราะงั้นก็เลยพาฉันมาทรมานแบบนี้ ใช่มั๊ย…สตีฟ”

“คุณนี่ฉลาดจริงๆ ถูกต้องตามนั้นเลยครับ คุณสตาร์ค”

หัวใจของโทนี่แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโดนจับลงให้นอนบนพื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสลิงโดนดึงออกไปไหน ร่างที่ตอบสนองกลับไปมันก็แค่ตามอารมณ์ของมนุษย์ที่ถูกปลุกปั่นขึ้นมา ทว่าภายในใจมันหนักอึ้งและหวีดร้องอย่างบ้าคลั่งราวกับคนบ้า ในที่สุดสตีฟก็ปลดปล่อยเข้ามาในตัวเขาพร้อมกันกับที่เขาปลดปล่อยออกไปทั้งหมด แล้วจากนั้นทุกอย่างก็จบ เขานอนหมดสภาพอยู่บนพื้น ดวงตายังคงเบิกกว้างกับคำพูดของอีกคนที่หลอกหลอนอยู่ในหัว ผมปรกหน้าจนมองอะไรไม่ชัดนัก เห็นก็แต่เพียงคนตัวสูงที่กลับไปใส่ชุดนักโทษตามเดิมและมานั่งยองอยู่ตรงหน้า เขาเห็นแต่เพียงรอยยิ้มเย้ยหยันเท่านั้น

“อ้อ ผมลืมบอกอะไรคุณไปอย่างหนึ่งครับ คุณสตาร์ค”

“…”

“ห้องนี้ติดกล้องถ่ายทอดสดอยู่เพื่อไว้ประจาณผม แต่ในวันนี้ดูเหมือนมันจะได้คนประจาณคนใหม่แล้ว โทนี่…เรื่องที่เกิดขึ้นคงมีคนรู้เห็นและรับรู้กันทั่วประเทศแล้ว ไอ้ผมน่ะมันไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไปเพราะโดนมองว่าเป็นตัวอันตราย โดนประจาณอยู่ทุกวัน แต่คุณนี่สิ ฮีโร่ของปวงชน โทนี่ สตาร์คที่มีคนนับหน้าถือตา คงจะอยู่ยากหน่อยนะครับถ้าเกิดว่าคิดจะหนีกลับไปในโลกฝั่งนั้น คุณนายเอก AV ของผม”

“!!!”

สตีฟลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องขัง โทนี่ไม่สนด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายจะหาทางหนีออกไปหรือเปล่า แต่สำหรับเขามันไม่มีที่ให้หนีอีกแล้ว อย่าว่าแต่ที่ให้หนีเลย แม้แต่จะกลับไปอยู่ที่เดิมก็ไม่รู้ว่าจะได้รับการยอมรับเหมือนเคยหรือเปล่า แถมตอนนี้ความรู้สึกที่มีก็โดนอีกฝ่ายย่ำยีจนไม่เหลือชิ้นดี หัวใจของเขาที่มอบให้อีกฝ่ายก็โดนทำลายจนย่อยยับ เขาหมดแล้วทุกสิ่ง ไม่เหลืออะไรเลย

โทนี่ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งทั้งที่เจ็บสะโพกเจียนขาดใจ น้ำรักของสตีฟไหลลงมาตามท่อนขา เขาพยามยันตัวเองให้ลุกยืนแต่ก็ล้มลงไปกองกับพื้น ขามันสั่นและอ่อนแรง เขากำหมัดกัดฟันแน่น ก้มหน้าลงชิดอก ฝืนกลืนก้อนสะอื้นและหยาดน้ำตาลงไปเพื่อไม่ให้ใครเห็นว่าตอนนี้เขากำลังอ่อนแอ โทนี่พยายามลุกอีกครั้งแต่ผลก็ยังเหมือนเดิม สุดท้ายเลยต้องคลานไปเก็บเสื้อผ้าตัวเองที่โดนโยนทิ้งมาใส่กลับเหมือนเดิม จากนั้นก็คลานออกไปจากห้องขัง มองหาห้องน้ำเพื่อชำระเอาคราบสกปรกออกไป ในที่สุดเขาก็เจอ

โทนี่คลานเข้าไปในห้องน้ำ ถอดเสื้อผ้าทั้งหมดออกไปกองมุมหนึ่ง เอื้อมมือไปเปิดฝักบัว แต่เพียงแค่น้ำไหลลงกระทบร่าง ความแสบและเจ็บก็แล่นเข้ามาหาอย่างไม่ทันตั้งตัว เขากัดมือตัวเองเพื่อกันเสียงร้อง ฝืนอาบน้ำทั้งที่มือสั่นเพราะเจ็บ และพอยิ่งเจ็บเขาก็ยิ่งกัดมือตัวเองจนเลือดไหลออกมา ม่านน้ำตาเข้าเคลือบดวงตาจนทำให้มองเห็นอะไรไม่ชัดนัก

ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บ ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น หัวใจที่เขามอบให้อีกฝ่ายมาตลอดมันไม่ได้โดนรับไปจริงๆ สตีฟไม่เคยมองเขาตั้งแต่แรก ไม่ได้รักเขามาตั้งแต่แรก แต่เขากลับหลงเชื่อทุกคำของอีกฝ่ายอย่างกับคนโง่ ไม่เอะใจ ไม่เผื่อใจ ซ้ำยังไว้ใจและเชื่อใจจนยอมทุกอย่าง ทว่าทุกอย่างกลับจบลงแล้ว ไม่เหลืออะไรแล้วจริงๆ

 

You’re the cure

You’re the only thing I wanna touch

So love me like you do, touch me like you do

ดังนั้นเธอช่วยรักฉันอย่างที่เคยรัก สัมผัสฉันอย่างที่เคยทำ

 

สตีฟกลับเข้ามาในห้องขังของตัวเอง เขามองคนตัวเล็กที่นอนขดตัวอยู่มุมห้องก่อนเดินเข้าไปดู เมื่อเห็นว่าโทนี่หลับแล้วก็นั่งลงข้างๆ มองใบหน้าซึ่งเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาอย่างสะเทือนใจ คำถามที่ว่า ไม่รักฉันแล้วงั้นเหรอ สตีฟ ยังดังอยู่ในหู เสียงร้องไห้และอ้อนวอนยังก้องอยู่ในโสตประสาท มันเริ่มทำให้เขาสับสนว่าควรทำยังไงต่อไปดี หัวใจที่โดนทำให้เจ็บช้ำเริ่มกลับมาหวั่นไหวอีกครั้งเพียงแค่เห็นอีกฝ่ายทรมานเจียนตาย เขากำหมัดแน่น หันหน้าหนีไปทางอื่น สูดลมหายใจเข้าลึกและทบทวนความเจ็บปวดที่ได้รับมาทั้งหมดจากอุปกรณ์ของสตาร์คอินดรัสทรี่

สตีฟลืมตาขึ้นอีกครั้ง ลุกไปหยิบกล่องยามานั่งลงข้างโทนี่เช่นเคย จากนั้นก็ทำแผลตามเนื้อตัวอีกฝ่ายแผ่วเบา ก่อนโดนโถมเข้ากอดเข้าที่เอวเต็มแรง ใบหน้าหนวดซุกลงกับหน้าท้อง น้ำเสียงสั่นเครือดังอู้อี้

“สตีฟ อย่าทำผมเลย ผมเจ็บ…ได้โปรด อย่าทำผมเลย อย่าทำผม อย่าทำผม…”

สตีฟไม่ได้ตอบอะไรทั้งนั้น นั่งมองคนตัวเล็กที่กระชับกอดไม่หยุดจนเขาแทบทรงตัวไม่อยู่ พยายามดันตัวโทนี่ออก ทว่า…

“แต่ผมรักคุณนะ สตีฟ” สตีฟดวงตาเบิกกว้าง ชะงักทันที ก้มลงมองอีกฝ่ายที่พึมพำแต่ประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมา “ผมรักคุณ สตีฟ”

แต่ทุกอย่างมันจบแล้ว โทนี่ จบตั้งแต่วันที่คุณเลือกจะเป็นศัตรูกับผมแล้ว ลืมผมซะเถอะนะ โทนี่

สตีฟคิดในใจ แกะมืออีกฝ่ายออกและลุกเอากล่องยาไปเก็บที่เดิม จากนั้นก็เดินไปนอนคนละฝั่งกับคนตัวเล็ก พยายามข่มตาให้หลับ ตั้งมั่วไว้ว่าจะไม่หวั่นไหวไปกับคำพูดบ้าๆ บอๆ ของอีกคนเป็นอันขาด

 

โทนี่โดนสตีฟลงโทษในหลากหลายรูปแบบ ทั้งเซ็กส์ ทำร้ายร่างกาย เล่นสนุกกับเขาราวกับเขาเป็นเพียงตุ๊กตาตัวหนึ่ง เขาทำได้แค่ทนยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาพยายามขัดขืนแต่ผลที่ได้ก็คือโดนทำโทษอย่างแสนสาหัส ถ้าไม่โดนจับหัวโขกกับผนังห้องก็จะโดนจับลากไปนั่งตากฝักบัวจนหนาวสะท้าน ความเจ็บที่ถาโถมเข้ามาทำให้เขาเลือกที่จะชินกับมัน ยอมรับมัน และอยู่เฉยปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามที่ใจอยากทำ เขาพอแล้ว เหนื่อยแล้ว

อยากตาย…

คืนนี้สตีฟหลับเร็วกว่าปกติ อาจจะเพราะเราเพิ่งมีอะไรกันไปเมื่อครู่ก็เป็นได้ โทนี่คลานไปหยิบปืนสั้นจากใต้โต๊ะวางถาดอาหารออกมามอง สายตานิ่งเฉยราวกับร่างไร้วิญญาณ มือเล็กอันสั่นเทายกมันขึ้นจ่อขมับ หลับตาลงแน่น จากนั้นก็ลั่นไกซะ

ปั้ง!

สตีฟสะดุ้งตื่น เขาผุดลุกจากเตียงไปเปิดไฟ เมื่อความสว่างฉายภาพให้เห็นเขาก็ต้องเบิกตากว้าง อ้าปากค้างอย่างตกใจ ถลาเข้าไปดูโทนี่ที่นอนตายตาไม่หลับ เลือดไหลออกจากรูข้างขมับ สตีฟพูดแทบไม่ออก เขายกมือขึ้นกุมแก้มอีกฝ่ายเอาไว้เบาๆ เมื่อไม่อาจแก้ไขอะไรได้ เขาเลื่อนมือข้างเดียวกันไปปิดตาอีกฝ่ายก่อนซบหน้าผากมน กระชับกอดร่างเล็กเอาไว้แน่น

 

 

 

 

 

 

It wasn’t worth it

 

 

 

09/12/2015

ฟิคฉลองที่เพจครบ 200 ไลค์ค่ะ กว่าจะเข็นตอนนี้ออกมาได้ต้องใช้พลังงานอย่างมาก #นอนแช่ ทำเกมจากเรื่องอเวนเจอร์สโฮสต์คลับไม่ทันจริงๆ ก็เลยไม่ได้ให้ลงเล่นกัน TwT ขอโทษนะคะ รบกวนเม้นท์หน่อยนะ YwY

ฝากติดตามฟิคเรื่องอื่นๆ ด้วยน้าา มีอะไรอยากพูดคุยตามมาได้ที่

Page: SaRa_PAO

TW: @GWAYESUNG

แล้วเจอกันเรื่องหน้าค่ะ xD

ตอนพิเศษของ It wasn’t worth it

16 thoughts on “[SF] SteveTony: It wasn’t worth it

  1. 1234 พูดว่า:

    จบแบบช็อค!!..มาก คนอ่านหน้าชาเลยคะ คือ ชอบพล็อตนี้นะ สนุกดี ไรท์แต่งดีมากกกกก รออ่านตลอดนะคะ แล้วก็อัพบ่อยๆน้าา รออยู่จริงๆ

    Liked by 1 person

    • โอ๋ๆ ไม่ช็อคน้าา เดี๋ยวกวาแก้ตัวใหม่กับฟิคเรื่องหน้า >w<;; ขอบคุณสำหรับคำชมและการรอคอยนะคะ ถ้าปิดเทอมจะพยายามอัพบ่อยๆ น้าา #ยื่นผ้าเช็ดหน้า TT

      ถูกใจ

  2. mooky พูดว่า:

    คือเรื่องดีมาก สะเทือนอารมณ์โคตร ทุกอย่างดีมากสนุกมาก. แต่คนอ่านนำ้ตาท่วมแล้ววววว. อีแคปปปปปทำมายยยทำแบบนี้ๆๆๆๆๆ. สงสารโทนี่อ่าาาาาา

    Liked by 1 person

  3. อินเทรนด์ พูดว่า:

    มันช่างโหดร้ายทารุน สะเทือนใจสุดๆ แต่ก้อเรียกเลือดได้หมดตัวเลยค่ะ กัปตันช่างโหดได้โล่ ส่วนป๋าของเราโดนขนาดนี้แล้วก้อยังรักเค้า ฮื้อๆๆ น้ำตาท่วมห้อง ขอบคุนไรต์มากน่ะค่ะ ที่แต่งตีฟนี่ให้ได้เสพ สนุกทุกเรื่องเลยค่ะ

    ถูกใจ

ใส่ความเห็น