[SF WINTERIRON] My Bitch (12)

Title: My Bitch (12)

Pairing: BUCKY x TONY [SF WINTERIRON]

Author: SaRa_PAO

Genre: Drama

Rate: PG

Note:

 

โทนี่นั่งกอดเข่าอยู่ตรงสระน้ำพุหน้าคฤหาสน์ของคิลเลียน

หลังจากที่เขาถูกพามาส่ง ณ ตรงนี้ ลูกน้องของบาร์นส์ก็เข้ามาช่วยแก้มัดเชือกพร้อมยื่นเสื้อสูทมาให้สวม

สูทตัวนี้น่าจะเป็นของบาร์นส์ เพราะอีกฝ่ายไม่ได้สวมมันอยู่ขณะต่อสู้กับคิลเลียน ซึ่งการต่อสู้จบลงในเวลาอันรวดเร็ว คือบาร์นส์ต่อยเสยคางจนคิลเลียนสลบ เท่านั้นพวกลูกน้องของคิลเลียนก็พากันศิโรราบแต่โดยดี

โทนี่ที่สวมสูทเสร็จรีบลุกไปนั่งในมุมมืดข้างสระน้ำพุ เขาร้องไห้เป็นเผาเต่าเมื่อทุกอย่างในชีวิตมันจบลงแล้ว แสงสว่างแห่งความหวังในชีวิตใหม่ดับลงจนหมด

บาร์นส์ต้องรังเกียจเขาแน่ ทำไมจะไม่ล่ะ ในเมื่อเห็นว่าเขามันใจง่ายแค่ไหน ในเมื่อเห็นกับตาว่าเขาโดนคนอื่นลวนลามต่อหน้า ทั้งสภาพที่น่าสังเวช ทั้งการแสดงออกที่น่าขยะแขยง เขาไม่เหลือใครอีกแล้ว

“เฮ้” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นเหนือหัว โทนี่สะดุ้ง กระชับกอดตัวเองแล้วไม่ยอมหันไปมองคนเรียก เขาก้มหน้าลงซุกเข่า “โทนี่ ฉันขอนั่งด้วยได้มั้ย”

โทนี่ไม่ได้ตอบ ขยับตัวเบียดเข้าหาสระน้ำพุมากกว่าเดิม เขาอยากบอกให้บาร์นส์รีบไปจากเขา อยากไล่ให้อีกฝ่ายไปไกลๆ จากคนที่ไม่มีอะไรดีคนนี้ แม้ว่าใจจริงแล้วเขาอยากให้บาร์นส์กอดเขาก็ตาม

“ไม่ตอบถือว่าอนุญาตนะ?” บาร์นส์ถือวิสาสะนั่งลงข้างโทนี่ เขาเว้นระยะห่างเล็กน้อยเพื่อดูลาดเลา “นายได้รับบาดเจ็บตรงไหนมั้ย”

โทนี่ส่ายหัว ทุกอย่างมันตีตื้นขึ้นมาในอก น้ำตาจะไหลออกมาอีกแล้ว แต่เขาต้องทนเก็บเอาไว้เพื่อไม่ให้บาร์นส์ต้องเป็นห่วง โทนี่กำสองมือเข้าหากัน กอดกระชับตัวเองมากยิ่งขึ้น เขาจะต้องทำให้บาร์นส์เห็นว่าเขาเข้มแข็งพออยู่ตัวคนเดียวได้ เขาต้องไม่เป็นอะไร

“หันมามองกันหน่อยได้มั้ย” บาร์นส์เอ่ยขอ ไม่ใช่ออกคำสั่งเช่นทุกที “ฉันอยากเห็นหน้านายนะ”

“สภาพน่าสมเพชแบบนี้น่ะเหรอ” โทนี่เอ่ยถาม เขากัดปากจนเป็นขีดขาว สั่งให้ตัวเองเลิกร้องไห้เสียที “สภาพที่… โดนคนอื่นย่ำยีไปทั่วต่อหน้าผู้คนมากมาย แถมยังทำอะไรไม่ได้จนกลายเป็นปัญหาให้นาย”

“ฉันเคยบอกแล้วว่าเรื่องของนายก็คือเรื่องของฉัน นายเป็นเมียของฉัน”

“ฉันไม่ใช่เมียของนาย!” โทนี่ตวาดลั่น “ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว ฉันน่ะ…”

โทนี่เงียบเมื่อโดนสวมกอดจากทางด้านหลัง เขาเงยหน้าขึ้นมองไปในความมืดมิดตรงหน้า ณ ที่แห่งนั้นมีแสงไฟดวงหนึ่งส่องสว่างอยู่ มันเป็นไฟดวงเล็กๆ ที่อบอุ่นอย่างน่าประหลาด

“เป็นสิ นายยังเป็นเมียของฉันอยู่ เป็นมาตลอดนั่นแหละโทนี่”

“แต่ฉัน ฉันโดน… นายจะมาอะไรกับคนอย่างฉัน คนที่ไม่มีคุณค่า ทำได้แค่เป็นตุ๊กตายางตัวหนึ่ง หลงอยู่ในเรื่องกามๆ จนคนอื่นเห็นมันเป็นข้อดีของฉันไปแล้ว”

“นายมีคุณค่านะ ต่อให้นายบอกว่านายไม่มีคุณค่ายังไง ฉันก็จะบอกใหม่ว่านายมีคุณค่าเสมอในสายตาของฉัน” บาร์นส์กระชับกอด “นายไม่ได้สมยอมไอ้ชั่วนั่นนี่ นายโดนกระทำ นายเกือบโดนข่มขืน”

“…”

“ฉันรู้ว่ามันก็ไม่ต่างอะไรจากที่ฉันเคยทำกับนาย ฉันไม่มีอะไรจะแก้ตัว ขอแค่ให้นายรู้ไว้ว่าฉันทำไปเพราะอยากได้นายมาเป็นเมีย อยากดูแลนายอย่างที่ต้องการมาตลอดโดยไม่สนว่านายจะรักฉันหรือเปล่า”

โทนี่หันไปมองคนด้านหลัง บาร์นส์คลี่ยิ้มอ่อนโยน

“เอาแต่ใจและเผด็จการใช่มั้ยล่ะ ขอโทษนะโทนี่” โทนี่ส่ายหัวไปมาให้กับคำสารภาพของบาร์นส์ “แต่ฉันรักนายที่ตัวนาย ตัวตนจริงๆ ของนาย ไม่ใช่ที่การกระทำหรือการแสดงออก”

โทนี่ไม่พูดอะไร เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาโผเข้ากอดบาร์นส์ตอนไหน สิ่งที่รู้มีเพียงแค่แสงสว่างในตัวของเขามันกลับมาแล้ว เสียงของบาร์นส์กังวานไปถึงในกระดูกของเขา ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัว

“เรากลับกันเถอะ ต่อจากนี้ฉันจะปกป้องและคอยดูแลนายเอง”

 

โทนี่นั่งอยู่ที่เบาะหลังกับบาร์นส์ คนตัวใหญ่ไม่พูดอะไรตั้งแต่ขึ้นมาบนรถ เอาแต่นั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง เขาเหลือบมองบาร์นส์เป็นระยะ ชั่งใจคิดว่าจะทำแบบนี้ดีหรือไม่ สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจได้

โทนี่กระเถิบไปกอดบาร์นส์แล้วผละออกไปนั่งที่เดิม ก้มหน้างุดด้วยความเขินอายกับการกระทำที่ไม่สมเป็นตัวเอง

บาร์นส์หัวเราะในลำคอเบาๆ แล้วเอื้อมมือมาเชยคางมนให้เงยหน้าขึ้น เขามองเข้าไปในดวงตาสีสวย มันสะท้อนภาพของเขา ไร้รอยแตกร้าว ไร้ความสิ้นหวัง มีแต่เขาเท่านั้นที่อยู่ในแววตาคู่นี้

“กลับบ้านไปจะตรวจเช็คให้ละเอียดทุกซอกทุกมุมเลย” หลังได้ยินโทนี่ก็ตัวสั่นอัตโนมัติ บาร์นส์คิดว่าหมอนี่คงกลัวเรื่องอะไรแบบนี้ไปแล้ว เขารีบแก้คำพูดใหม่ “ล้อเล่น เอาไว้นายทำใจได้แล้วค่อยมาทำกัน”

“นี่!” โทนี่มุ่ยหน้าพร้อมตะโกน บาร์นส์หัวเราะเบาๆ ก่อนเงียบลงเมื่อถูกถาม “ทำไมถึงเลือกฉัน”

“ไม่รู้สิ ไม่เคยคิดหาคำตอบหรอก รู้แค่ว่าฉันรักนายแค่นี้ก็พอแล้ว”

“คนที่ไม่มีอะไรดี…”

“หยุดพูดแบบนั้นเสียที” บาร์นส์ดุ “นายมีค่า ต่อให้ใครจะเป่าหูนายยังไง ขอให้นายเชื่อฉันว่านายมีค่าในตัวเอง คุณค่าที่มีแค่คนที่คู่ควรเท่านั้นที่จะมองเห็น”

“ไม่ได้กำลังเข้าข้างตัวเองใช่มั้ย” โทนี่มองอ่อนถาม บาร์นส์ยักไหล่ เขาหลุดหัวเราะน้อยๆ แล้วรีบเงียบเสียงลงเมื่อเห็นคนข้างๆ เอียงหัว “เปล่า แค่…”

“ฉันชอบรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะของนายที่สุดเลย”

“…”

“แล้วฉันก็รอคอยมันมาตลอด” บาร์นส์ว่าพลางหัวเราะ ”ได้เจอกันเสียที”

โทนี่ไม่ค่อยเข้าใจที่บาร์นส์พูดเท่าไหร่ อีกฝ่ายหันไปมองข้างทางอีกครั้งเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ โทนี่ไม่รู้หรอก เขาไม่กล้าคาดเดาไปต่างๆ นานาด้วย

ต่อมาโทนี่ค่อยเขยิบไปกุมมือใหญ่พร้อมเอนหัวลงซบไหล่อีกฝ่าย คำถามมากมายผุดขึ้นมารบกวนการคิดของเขา เขาพยายามทบทวนตัวเองทั้งในอดีตและปัจจุบันเพื่อคาดหวังและวาดฝันอนาคตของตัวเอง อนาคตที่เคยเอาแต่คิดว่าไว้พรุ่งนี้ค่อยคิด แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว เขาจะไม่ทำแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว

โทนี่เหลือบมองบาร์นส์ อีกฝ่ายก้มลงมาส่งยิ้มให้กัน จับมือของเขาให้ประสานเข้ากับมือตัวเอง

“ขอบคุณ…ที่นายไม่ทิ้งฉัน”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก”

“ขอบคุณที่นายเลือกฉัน” บาร์นส์ส่งยิ้มยิงฟันมาให้ “ขอโทษที่เคยทำไม่ดีกับนายเอาไว้ตั้งเยอะ”

“สนุกดี ฉันชอบ” บาร์นส์พูดขำๆ แต่โทนี่ไม่ขำด้วย “ทำไมอยู่ๆ ถึงจริงจังขึ้นมาล่ะเนี่ย”

“ฉันจะไม่หนีอีกแล้ว ฉันจะไม่คิดอยากตายหรือหายไปจากโลกนี้อีกแล้ว”

“โทนี่…”

“ต่อจากนี้ฉันจะอยู่เพื่อรักนาย” บาร์นส์ดวงเบิกกว้างจนมันแทบถลนออกมา โทนี่หน้าร้อนวูบ เสตามองทางอื่น บีบกระชับมือใหญ่แน่น “ฉันไม่ชอบพูดซ้ำ อย่าถามมากด้วย จะนอนแล้ว”

โทนี่แกล้งหลับ บาร์นส์ไม่ได้พูดอะไรตามที่ขอ อีกฝ่ายเอนหัวลงซบหัวเขาแล้วใช้มืออีกข้างวางซ้อนลงบนมือซ้ายของเขา

“ขอบคุณที่ยอมรักกัน”

บาร์นส์บอก แต่โทนี่คิดว่าคำพูดนี้มันควรเป็นของเขามากกว่า เขาสิที่ควรบอกบาร์นส์ ไม่ใช่สลับกันแบบนี้

“ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง บัคกี้”

 

หลายปีผ่านไป

โทนี่เริ่มกลับมาสดใสได้ดังเดิม บาร์นส์แจ้งความจับคิลเลียนในหลายข้อหาและยื่นฟ้องศาลให้ลงโทษคิลเลียนให้สาสมที่สุด บาร์นส์สู้เพื่อเขาและทำทุกอย่างเพื่อให้คนรู้ว่าเบื้องหลังคลิปฉาวใครเป็นตัวการ

บาร์นส์ออกแถลงข่าวว่าคนในคลิปเป็นเพียงคนหน้าเหมือนที่คิลเลียนต้องการนำมาใช้ข่มขู่และหมิ่นประมาทเขา และทำให้เขาเสียสุขภาพจิต ผู้ชมส่วนใหญ่พากันเห็นด้วยและเริ่มกลับมามองเขาในทางที่ดีขึ้น

บาร์นส์คืนบริษัทของตระกูลกลับมาให้ โทนี่เปลี่ยนแปลงตัวเองและสู้เพื่อบริษัทอย่างเต็มที่ เขาทำทุกทางเพื่อลบคำสบประมาทของพวกพนักงาน โดยมีแม่ บาร์นส์ และบรูซคอยอยู่เคียงข้าง นอกเหนือไปจากนี้ทั้งสามคนยังคอยให้กำลังใจเขาอีกด้วย อ้อ มีสตีฟอีกคน คุณหมอจอมโหดที่ชอบสั่งให้เขาไปพบจิตแพทย์ แถมคอยเป่าหูบัคกี้ให้เป็นห่วงเรื่องของเขาไม่หยุด

โทนี่ยิ้มออกมากขึ้น เขาทักทายและพูดคุยกับคนอื่นได้เกือบเหมือนปกติ ต้องใช้เวลานานทีเดียวถึงค้นพบว่าเขาที่แท้จริงคือใคร ถึงจะยังไม่มั่นใจนัก แต่เขาคิดว่าเขาคือคนที่เหมาะกับรอยยิ้มล่ะ

“คิดอะไรอยู่” บัคกี้เดินมากอดคอแล้วก้มลงจูบขมับโทนี่ “คิดถึงฉันอยู่หรือเปล่า หื้ม?”

“ไม่เลยสักนิดเดียว” โทนี่ตอบแบบลองเชิง คนตัวใหญ่หน้ามุ่ยในทันที “ฮะๆ ตลกแฮะ”

“แกล้งกันแบบนี้ระวังจะโดนดี คืนนี้โดนจัดหนักแน่เจ้าตัวแสบ”

“ไม่กลัวหรอก” โทนี่เอ่ยอย่างท้าทาย เขาซบแก้มลงกับท่อนแขนอีกฝ่าย “ไอ้คนซาดิสม์”

“แต่ก็เห็นนายชอบแล้วนี่ เริ่มสนุกแล้วใช่มั้ยล่ะ” บัคกี้ถาม ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นสายตุดันจากคนตัวเล็ก ตาของโทนี่กระตุกอย่างรุนแรงจนดูเหมือนจะระเบิดได้เลยทีเดียว น่ากลัวดีแท้  “ต่อจากนี้นายไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ฉันจะคอยดูแลและปกป้องนายจนกว่าเราจะตายจากกัน ฉันสัญญา โทนี่”

คำพูดของบาร์นส์เป็นความรู้สึกปลอบประโลมและสงบสุขที่โทนี่ไม่เคยได้สัมผัสมาตั้งแต่เด็ก แล้วโทนี่ก็อดถามตัวเองไม่ได้ว่าถ้าตอนนั้นเขามองบาร์นส์ให้ลึกกว่านี้ ไม่มองแค่รูปลักษณ์ภายนอก เขาคงมีความสุขไปนานแล้วหรือเปล่า?

“ฉันรักนายนะ โทนี่”

โทนี่พยักหน้ารับรู้ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไร ประตูห้องทำงานก็เปิดออก บาร์นส์ผละออกไปยืนเว้นระยะห่าง บรซูเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มกรุ้มกริ่มดูมีเลศนัยจนโทนี่รู้สึกเขินอายขึ้นมา

“ขอโทษที่มาขัดจังหวะสวีตหวานนะครับ” บรูซบอกพร้อมหัวเราะคิก “พอดีคุณมาเรียให้มาตามคุณบาร์นส์ไปพบน่ะครับ”

โทนี่หันไปมองบาร์นส์ที่หันมามองกันทันที เขาสองคนต่างกะพริบตาด้วยความงุนงง ก่อนบรูซจะผายมือให้บาร์นส์เดินนำตัวเองไป

“เดี๋ยวฉันมานะ”

โทนี่ใจคอไม่ดีเลย เขารู้สึกเหมือนว่าถ้าปล่อยบาร์นส์ออกไปล่ะก็เขาจะไม่ได้เจอชายคนนี้อีกแล้ว

“เอ่อ…”

“ไม่เป็นไร” บาร์นส์พูดดักเหมือนอ่านความคิดกันออก แล้วส่งรอยยิ้มมาดมั่นมาให้ “แล้วจะรีบกลับมา”

 

จะรีบกลับมาบ้าอะไรกัน!

โทนี่ด่าบาร์นส์อยู่ในใจ

หลังจากบาร์นส์ออกไปเมื่อตอนเช้า จนเย็นป่านนี้แล้วยังไม่กลับมาเลย

พระอาทิตย์คล้อยลงตกสู่ดินแล้ว มันลาลับขอบฟ้าไปพร้อมกับแรคคูนที่ไม่ยอมกลับมาหาเขาเสียที

โทนี่เดินวนไปวนมาในห้องทำงาน เขาไม่กล้าออกไปจากที่นี่เพราะกลัวว่าถ้าบัคกี้กลับมาแล้วไม่เห็นเขา อีกฝ่ายจะเป็นห่วงและออกตามหาทำให้เรายิ่งคลาดกัน

โทนี่ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู มันชี้บอกเวลาหกโมงเย็น แปดชั่วโมงแล้วที่บัคกี้หายออกจากห้องนี้ไปแล้วยังไม่กลับมา

หรือจะเกิดอะไรขึ้นกับหมอนั่น หรือแม่จะสั่งให้บัคกี้เลิกยุ่งกับเขา หรือแม่จะบอกให้บัคกี้เลิกกับเขา

โทนี่สะบัดหน้าไปมาเพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่าน เขาสูดหายใจเข้าเต็มปอด บอกตัวเองว่าอย่าเพิ่งตีโพยตีพาย ให้ใจเย็นๆ รอบัคกี้กลับมาอธิบายดีกว่า

“โทนี่” ประตูห้องทำงานเปิดออกพร้อมเสียงของแม่ที่ดังขึ้น โทนี่หันไปมอง “เลิกกับบาร์นส์ซะ”

“ทะ…ทำไมล่ะครับ” โทนี่ถามด้วยความสงสัยระคนตกใจ แม่ปิดประตูแล้วเดินตรงเข้ามา สีหน้าท่าทางเอาเรื่องทีเดียว

“แม่รู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว มันข่มขืนลูก มันบังคับให้ลูกต้องยอมจำนนต่อมัน” เสียงของแม่แข็งกร้าว โทนี่เงียบเมื่อเถียงไม่ออก “มันเล่าทุกอย่างให้แม่ฟังหมดแล้ว และแม่จะไม่ยอมให้มันได้ลูกไปแน่”

“แต่ตลอดเวลาที่ผมอยู่กับเขา เขาก็คอยดูแลผมเป็นอย่างดี แม่ก็เห็น”

“มันหลอกให้ลูกตายใจไง!”

“แต่เขาก็ช่วยให้ผมกลับมายืนในสังคมได้ใหม่อีกครั้ง” โทนี่โต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้

คราวนี้เป็นฝ่ายแม่บ้างที่เงียบ แม่มองเขาด้วยสายตาอย่างไรก็ไม่อาจทราบได้ เขารู้แค่ว่าแม่ยังดูไม่ยอมแพ้ในการทำให้เขาเลิกกับบาร์นส์ ซึ่งเขาจะไม่มีวันให้มันเป็นอย่างนั้น เขาจะไม่ยอมปล่อยบาร์นส์ไปอีกแล้ว ทว่าสมองซีกขวาก็ดันเกิดคำถามขึ้นมาว่าถ้าบาร์นส์อยากเลิกล่ะ? ถ้าบาร์นส์เห็นคล้อยตามแม่ล่ะ?

“บาร์นส์อยู่ไหนครับ” ด้วยเหตุนี้โทนี่จึงตัดสินใจถามแม่ออกไปตรงๆ แม่ดูจะเหวอไปเล็กน้อยแล้วรีบกลับมาทำสีหน้าเดิม คือนิ่งและเต็มไปด้วยความบึ้งตึง “แม่ครับ ผมรู้ว่าแม่ไม่เห็นด้วยที่จะให้ผมคบกับบาร์นส์ต่อ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมันมาจากความสมัครใจของผมส่วนหนึ่งด้วย”

“แกโดนบังคับต่างหาก เลิกเข้าข้างมันเสียที!” แม่ตะคอก “เลิกยุ่งกับมันซะ แล้วพรุ่งนี้ไปพบคุณหมอสเตรนจ์กับฉันด้วย คุณหมอเหมาะกับแกมากกว่าบาร์นส์อีก”

“แต่ผมไม่ได้รักคุณหมอสเตรนจ์อะไรนั่น ผมรักบาร์นส์”

ชั่วแวบหนึ่งโทนี่เหมือนเห็นสีหน้าของแม่เปลี่ยนไป มันดูออกยากมากว่าเปลี่ยนไปในอารมณ์ใด เพราะแค่แป๊บเดียวสีหน้าของเธอก็กลับมาเป็นอย่างเดิม แม่ส่ายหน้าพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ไม่ว่าแกจะปฏิเสธยังไงฉันก็จะให้แกลองศึกษาดูใจกับคุณหมอสเตรนจ์”

“แม่ครับ” โทนี่เสียงอ่อน เขาเริ่มไม่ชอบใจขึ้นมาแล้ว “แม่ไม่ฟังผมเลย”

“เพราะฉันฟังแกมาตลอดแกถึงได้ไปมีชีวิตตกต่ำมาไง คราวนี้ฉันจะไม่ฟังแกอีกต่อไปแล้ว ฉันจะจับแกใส่ตะกร้าล้างน้ำให้สะอาด”

“ของที่มันเคยสกปรกไปแล้ว ต่อให้ใช้ผงซักฟอกหรือวิธีการใดมันก็ไม่อาจกลับไปสะอาดได้ดังเดิมหรอกนะครับ”

แม่ดูไม่พอใจจนกลายเป็นโมโห แม่คิดจะพูดอะไรสักอย่างแต่เปลี่ยนใจเดินกระแทกส้นเท้าออกไปจากห้องทำงานของเขาแทน โทนี่ได้แต่ยกมือขึ้นกุมขมับ แล้วใช้มืออีกข้างล้วงหยิบมือถือมากดโทรหาบาร์นส์

 

 

โปรดติดตามตอนต่อไป
23/07/2018
#ficmybitch

1 thoughts on “[SF WINTERIRON] My Bitch (12)

ใส่ความเห็น